สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตของเรามาก บางคนถึงกับต้องใส่แผ่นอนามัยรองซับไว้ตลอดทั้งวัน ช่วงแรกเราอาจจะรู้สึกได้ว่าเมื่อปวดฉี่จะเริ่มกลั้นไม่อยู่ กลั้นไม่ไหว ตามด้วยด้วยอาการฉี่เล็ดในระหว่างที่ทำกิจกรรมหรือไอจาม และที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดก็คงจะเป็นการที่ปวดฉี่ปุ๊ปฉี่ราดปั๊ป ที่มักจะพบบ่อยในวัยผู้สูงอายุค่ะ บทความนี้จะช่วยพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจกับภาวะนี้ ไปพร้อม ๆ กับการทำความรู้จักวิธีรักษาภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ค่ะ – หมอตวง Amara Clinic
ในปัจจุบันนี้ คนที่มีปัญหากลั้นฉี่ไม่อยู่มีการยินยอมที่จะเข้ารับการรักษามากขึ้นกว่าในสมัยก่อนมาก เนื่องจากในสมัยก่อนสำหรับบางคนแล้ว เรื่องเหล่านี้อาจเป็นเรื่องน่าอายและไม่กล้าให้ใครรู้ ถ้าจะไปรักษาจะต้องทำการผ่าตัดยกกระชับ แน่นอนว่าตามมาด้วยความเจ็บระบม และระยะเวลาพักฟื้นที่นาน คนใกล้ชิดทราบได้แน่นอนว่าไปทำมา โดยในปัจจุบันนี้ ก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีและเทคนิคทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น เราสามารถรักษาภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ได้แบบไม่ต้องผ่าตัดเลย อีกทั้งสังคมในปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายมากเท่าไหร่นัก เพราะรับรู้ว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย
ภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ (Urinary Incontinence) คือภาวะที่ปัสสาวะเล็ดลอดออกมา โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจออกแรงเบ่ง หรือภาวะที่เราไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้ ซึ่งผู้สูงอายุมักจะพบเจอกับอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่บ่อยกว่าวัยอื่น ๆ เนื่องจากร่างกายเสื่อมสภาพลง หรือมีภาวะอวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อยค่ะ ซึ่งคนที่ปกติจะมีการขับถ่ายปัสสาวะครั้งหนึ่งประมาณ 400-600 มิลลิลิตร/ครั้ง ส่วนคนที่มีภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่จะขับถ่ายปัสสาวะในปริมาณที่น้อยกว่า 400-600 มิลลิลิตร/ครั้ง อย่างไรก็ตามภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่นี้ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ในคนไข้แต่ละรายมีระดับและประเภทของภาวะนี้ไม่เหมือนกัน
ผลกระทบจากการมีอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่
- บริเวณอวัยวะเพศจะมีความอับชื้นตลอดทั้งวัน
- อาจเกิดผดผื่น อาการคัน และแผลขึ้นตามมาได้
- บางรายจะต้องสวมผ้าอนามัยหรือแผ่นรองซับไว้
- เกิดความไม่มั่นใจในตัวเองและส่งผลต่อจิตใจ
เกร็ดน่าสนใจที่ควรรู้
ปัสสาวะคือน้ำและของเสียในร่างกายที่ถูกขับออกมาจากไต แล้วไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ปกติแล้วขนาดของกระเพาะปัสสาวะจะสามารถบรรจุแบบเต็ม ๆ ได้ที่ประมาณ 500-1000 มิลลิลิตร หากไตขับของเสียออกมา แล้วปริมาณของเสียในกระเพาะปัสสาวะอยู่ที่ประมาณ 160-300 มิลลิลิตร เราจะเริ่มรู้สึกปวดปัสสาวะเพราะความตึงของกระเพาะปัสสาวะ จากนั้นเส้นประสาทในบริเวณนั้น จะส่งสัญญาณและทำให้กล้ามเนื้อเรียบของกระเพาะปัสสาวะหดตัวลง ความดันก็จะมากขึ้น จากนั้นหูรูดของท่อปัสสาวะจะเปิดออก ทำให้ปัสสาวะไหลออกมาที่ท่อปัสสาวะภายนอก และพร้อมที่จะปลดปล่อย ซึ่งคนที่มีปัญหากลั้นฉี่ไม่อยู่เป็นเพราะกล้ามเนื้อบริเวณนี้ไม่กระชับ หรือไม่ได้หดตัวกระชับแน่นเหมือนปกตินั่นเอง
ประเภทของภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ในเพศหญิง
ประเภทของภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ในเพศหญิงมีหลายประเภทเลยค่ะ แต่หมอขอยกแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- ภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่เมื่อเกิดแรงดันขึ้นในช่องท้อง หรือปัสสาวะเล็ดเมื่อมีการไอจาม การออกกำลังกาย การหัวเราะ หรือการยกของหนัก (Stress Urinary Incontinence) เกิดจากการที่เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่พยุงท่อปัสสาวะเกิดความเสื่อมโทรม ไม่สามารถพยุงตัวได้ดีเหมือนก่อน พอเกิดแรงดันขึ้น ปัสสาวะจึงเล็ดรอดออกมา
- ภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่ เมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะแบบทันทีทันใด (Urgency Incontinence) หรือเราจะเรียกได้ว่าเป็นอาการปัสสาวะราดก็ได้ค่ะ อาการกลั้นฉี่ไม่อยู่แบบไม่ทันได้ตั้งตัว เกิดจากการที่กระเพาะปัสสาวะบีบตัวเร็วเกินไป ทั้งนี้ ผู้ที่มีภาวะแบบนี้อาจจะปัสสาวะบ่อยมากในระหว่างวัน และปวดปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนได้
- ภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่แบบผสม (Mixed Incontinence) หรือการที่คนไข้มีอาการปัสสาวะราด ร่วมกับไอจามปัสสาวะเล็ด
อาการกลั้นฉี่ไม่อยู่เกิดจากสาเหตุใด?
- การที่มีน้ำหนักตัวเยอะ และมีภาวะอ้วน เพราะน้ำหนักที่เยอะขึ้นจะไปเพิ่มแรงดันในช่องท้องและกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเล็ดออกมาได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
- คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือเริ่มเข้าสู่วัยทองแล้ว เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดน้อยลง ประจำเดือนก็จะเริ่มขาดหายไป ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและเนื้อเยื่อที่คอยพยุงทางเดินปัสสาวะเสื่อมโทรมลง
- การมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะที่รุนแรงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะค่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมันหย่อนตัวลงมากกว่าปกติได้
- การตั้งครรภ์จะทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานขยายตัวมากขึ้น และน้ำหนักตัวของคุณแม่ก็เพิ่มขึ้นด้วย จึงทำให้ความหนักมันไปเพิ่มแรงดันของช่องท้องและกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง
วิธีรักษาอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่แบบไม่ต้องผ่าตัด
สำหรับวิธีรักษาอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่ สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดยกกระชับจากภายใน (เจ็บและใช้เวลาพักฟื้นนาน) , การยกกระชับจากภายในแต่ไม่ต้องผ่าตัด (ส่งอุปกรณ์เข้าไปกระตุ้นให้ช่องคลอดกระชับตัว) และสามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือทำจากภายนอกก็ได้เช่นกันค่ะ เรามาดูกันว่าวิธีรักษาและป้องกันอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่กันว่าจะมีอะไรบ้าง!?
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- บริการกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หรือฝึกขมิบช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ
- ลดปริมาณน้ำที่ดื่มก่อนนอนลง
- ลดปริมาณในการการดื่มคาเฟอีน
- ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์
กระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วย TESLA Former Chair
TESLA Former Chair เป็นนวัตกรรมพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Functional Magnetic Stimulation : FMS) ชนิดที่มีการกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบเฉพาะเจาะจง เมื่อผู้ที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่นั่งบน TESLA Former Chair พลังงานจะถูกปล่อยออกมาแล้วทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor) หดเกร็งและคลายตัวคล้ายการขมิบติดต่อกันไปเรื่อย ๆ กว่า 50,000 ครั้ง ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งถ้าพูดถึงการขมิบด้วยตัวเองในแต่ละวัน ไม่มีทางที่จะถึงหลักหมื่นครั้งแน่นอนค่ะ โดยในระหว่างที่ทำการรักษาจะไม่เกิดการบาดเจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด และไม่เกิดแผล เพราะเป็นการยกกระชับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานจากภายนอกร่างกาย
สำหรับคนที่เคยตั้งครรภ์มาก่อน หรือเป็นคุณแม่หลังคลอด มักจะไม่ได้พบผลข้างเคียงที่ตามมาเพียงแค่ภาวะกลั้นฉี่ไม่อยู่เท่านั้น บางรายอาจจะมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) ร่วมด้วย ซึ่งเครื่อง TESLA Former นี้สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กลับมาเฟิร์มกระชับ แข็งแรง และกระตุ้นให้เกิดร่องกล้ามเนื้อได้อีกด้วย สำหรับข้อดีของนวัตกรรมกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบเร่งด่วน TESLA Former มีดังนี้
- สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขา
- ช่วยยกกระชับปั้นบั้นท้ายหรือก้นให้มีความเฟิร์ม เป็นทรงกลมเด้งได้
- สามารถทำให้เห็นร่องกล้ามเนื้อหน้าท้อง Six Pack และ Sexy Line ได้
- ช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดเอว ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย
- ช่วยรักษาอาการปัสสาวะเล็ด กลั้นฉี่ไม่อยู่ อุจจาระเล็ดได้
- ช่วยทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้
กระชับช่องคลอดด้วย Virgin Tight
Virgin Tight เป็นเทคโนโลยีในการยกกระชับช่องคลอดจากภายใน โดยหมอจะส่งอุปกรณ์เข้าไปทางช่องคลอด และปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง (High Intensity Focus Ultrasound : HIFU) ออกมา ทำให้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นลึก (SMAS) เกิดการหดตัวลง คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวก็จะถูกกระตุ้นให้ผลิตออกมามากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ช่องคลอดกระชับตัวและฟื้นฟูสภาพให้กลับไปใกล้เคียงเหมือนเมื่อก่อนได้ โดยจะทำให้อาการกลั้นฉี่ไม่อยู่ลดลง ช่วยเพิ่มความรู้สึกขนาดมีเพศสัมพันธ์ และจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงหลังรักษาได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งนี้ ระหว่างที่ทำ Virgin Tight คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ นะคะ เป็นเพียงความรู้สึกหน่วงตึงเล็กน้อยระหว่างทำเท่านั้นเอง เมื่อทำเสร็จแล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นเลยค่ะ
สรุป
สำหรับวิธีรักษาและบรรเทาอาการกลั้นฉี่ไม่อยู่โดยไม่ต้องผ่าตัดที่หมอได้แนะนำไป (TESLA Former Chair และ Virgin Tight) จะเหมาะกับคนที่มีภาวะนี้ในระดับน้อยหรือปานกลางเท่านั้นนะคะ สามารถเลือกได้เลยว่าต้องการรักษาด้วยวิธีไหน ถ้า Virgin Tight ก็จะมีความถี่ในการทำที่น้อยกว่า TESLA Former Chair ค่ะ เพราะเป็นการกระชับจากภายใน ทั้งนี้ ถ้าไม่มั่นใจก็สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ทาง LINE : @amaraskin หรือนัดหมายเข้ามาพูดคุยกับหมอที่ Amara Clinic ก่อนได้นะคะ สำหรับคนที่มีปัญหานี้ในระดับที่รุนแรงมาก ๆ หมออาจจะแนะนำให้พบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อวินิจฉัยว่าควรผ่าตัดหรือรักษาด้วยวิธีใด จึงจะตรงจุดมากที่สุดค่ะ