สำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในสาว ๆ รวมไปถึงหนุ่ม ๆ บางคน เพราะเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดเส้นขนที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างถึงรากถึงโคน และหนึ่งในเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเราก็คงหนีไม่พ้น YAG Laser หรือ ND YAG Laser ในบทความ Amara Clinic วันนี้ หมอมะปรางจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยว่า YAG Laser คืออะไร หลักการทำงานเป็นอย่างไร การทำ YAG Laser ต้องเตรียมตัวและดูแลตัวเองอย่างไร พร้อมตอบคำถามยอดฮิต อาทิ เลเซอร์ YAG กับ Diode ต่างกันอย่างไร และจะเลือกทำ YAG Laser ที่ไหนดี ใครที่กำลังสนใจเรื่องเลเซอร์กำจัดขน YAG Laser อยู่ ห้ามพลาดนะคะ!
การทำเลเซอร์กำจัดขน ดีกว่าการกำจัดขนวิธีอื่นอย่างไร
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักว่า YAG Laser คืออะไร ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนค่ะว่า ทำไมเลเซอร์กำจัดขนถึงได้รับความนิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการกำจัดขนรูปแบบอื่น ๆ อย่างไร สำหรับเลเซอร์กำจัดขนในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายชนิด โดยถ้าจะแยกตามประเภทการใช้งานก็มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ เลเซอร์กำจัดขนที่ใช้เองได้ที่บ้าน หรือเลเซอร์กำจัดขนแบบพกพา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีพลังงานที่ค่อนข้างต่ำมาก กว่าจะเห็นผลก็เรียกว่าใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ กับอีกหนึ่งชนิดคือ เลเซอร์กำจัดขนที่ใช้กันในคลินิก ซึ่งเป็นเลเซอร์ชนิดที่ใช้พลังงานที่หลากหลาย อย่างหลัก ๆ ก็จะมี Diode Laser, IPL รวมไปถึง YAG Laser ค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็แน่นอนว่าดีกว่าเครื่องเลเซอร์กำจัดขนแบบพกพา เพราะมีประสิทธิภาพของระดับพลังงาน รวมไปถึงมีมาตรฐานอีกด้วยค่ะ (สามารถเข้าไปติดตามอ่านรายละเอียดชนิดของเลเซอร์ได้ที่ เลเซอร์ขนมีกี่แบบ)
สำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถกำจัดขนได้ลึกถึงรากขน โดยเมื่อทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องครบจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ ก็จะทำให้เส้นขนขึ้นช้าลง เส้นขนบางลง ช่วยลดการเกิดเส้นขนใหม่ได้ในระยะยาว รวมถึงยังมีความอ่อนโยนต่อผิว ซึ่งดีกว่าการกำจัดขนในรูปแบบอื่น ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น การโกน, การแว็กซ์ หรือการถอนขนด้วยแหนบ ซึ่งการกำจัดขนด้วยวิธีเหล่านี้ทำร้ายผิวของเราอย่างมากเลย ทั้งอาการระคายเคือง, คันผิว, ผิวอักเสบ, การเกิดขนคุด รวมไปถึงยังทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น และยังไม่สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างถาวรอีกด้วยค่ะ
YAG Laser คืออะไร
ND YAG Laser หรือ YAG Laser คือ เลเซอร์กำจัดขนชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยการปล่อยเลเซอร์ที่มีมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1064 nm (นาโนเมตร) ซึ่งตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานออกมาแบบสั้น แต่กลับให้พลังงานแสงที่สูง จึงส่งผลให้พลังงานสามารถลงลึกไปกำจัดขนใต้ผิวหนังได้ถึง 5-7 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระดับที่สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากเลยค่ะ โดยผลลัพธ์หลังทำ YAG Laser คือ จะช่วยให้ลดการเกิดใหม่ของเส้นขน ซึ่งในการทำแต่ละครั้งจะสามารถกำจัดเส้นขนในแต่ละครั้งได้ 20-30% ของเส้นขนทั้งหมดในบริเวณที่ทำ ND YAG Laser นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดโอกาสการเกิดจุดด่างดำ และริ้วรอยจากการกำจัดขน เมื่อทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ เส้นขนก็จะหยุดเติบโตและไม่เกิดขึ้นมาใหม่อีกเลยค่ะ
หลักการทำงานของ YAG Laser คือ จะส่งพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ ที่จะเข้าไปดักจับกับเม็ดสีเมลานินของเส้นขน ซึ่งเมื่อเส้นขนโดนความร้อนจะทำให้เส้นขนหยุดการเจริญเติบโต จากนั้นเส้นขนจะค่อย ๆ หลุดร่วงออกมา โดย YAG Laser หรือ ND YAG Laser นับว่าเป็นเลเซอร์ที่สามารถกำจัดเส้นขนที่มีสีเข้ม สีอ่อน รวมถึงเส้นขนที่มีขนาดบางมาก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ในการกำจัดขนที่ใบหน้าและลำตัว โดยขณะทำจะมีการปล่อยแก๊สเย็นออกมา เพื่อทำให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น และปกป้องผิวบริเวณที่กำจัดขนให้ปลอดภัยค่ะ
YAG Laser ทำบริเวณไหนได้บ้าง
- ไรขนเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ไรคิ้ว ขนบาง ๆ บนใบหน้า หรือไรผม
- หนวดเครา เพื่อผิวที่เรียบเนียน ไม่ต้องโกนอีกต่อไป
- แขน กำจัดขนที่แขน เผยผิวเรียวแขนที่เนียนเรียบ
- รักแร้ กำจัดขนรักแร้ ไม่ต้องโกน ไม่ต้องแว็กซ์ ไม่ต้องถอน ลดผิวหนังไก่
- หน้าอก กำจัดขนบริเวณหน้าอก ใส่เสื้อโชว์หน้าอกได้อย่างมั่นใจ
- หัวไหล่และแผ่นหลัง เพื่อผิวที่เรียบเนียน โชว์ผิวได้อย่างมั่นใจ
- หน้าท้อง ผิวเกลี้ยงเกลาไร้ขน ผิวสวยเนียนเรียบ
- บริเวณบิกินี กำจัดขนน้องสาว โดยไม่ทำร้ายผิว
- เรียวขา ผิวขาเรียบเนียน ไม่เป็นขนคุด
เลเซอร์ YAG กับ Diode ต่างกันอย่างไร
ในปัจจุบัน นอกจาก ND YAG Laser หรือ YAG Laser แล้ว ยังมีอีกหนึ่งชนิดเลเซอร์กำจัดขนที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ Diode Laser ค่ะ สำหรับเลเซอร์ YAG กับ Diode ต่างกันอย่างไร จริง ๆ แล้วเลเซอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเส้นขนได้ลึกถึงรากขนเหมือนกันเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีความอ่อนโยนกับผิวพรรณ ไม่ทำให้ผิวไหม้ รวมถึงช่วยกระชับรูขุมขน แต่อาจมีความแตกต่างแค่เรื่องของความยาวคลื่น โดย Diode Laser จะมีความยาวคลื่นที่หลากหลายตั้งแต่ 800-810 nm, 940 nm และ 1064-1350 nm ส่วน YAG Laser คือ เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 nm สำหรับเลเซอร์กำจัดขนทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถกำจัดเส้นขนได้ทั่วร่างกาย เหมาะกับสีผิวอ่อนไปถึงสีผิวเข้ม และเหมาะกับทุกลักษณะของเส้นขน ดังนั้น จึงมีความแตกต่างกันในเรื่องของความยาวคลื่นพลังงานเท่านั้นค่ะ (สามารถเข้าไปติดตามอ่านรายละเอียดของเลเซอร์ Diode ได้ที่ Diode Laser คืออะไร)
การเตรียมตัวก่อนทำ YAG Laser
- งดการทาครีมที่มีส่วนผสมทำให้ผลัดเซลล์ผิว หรือส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
- งดการสครับผิวในบริเวณที่ต้องการทำ YAG Laser
- งดการโกน ถอน และแว็กซ์ขนก่อนทำ YAG Laser
- งดการโดนแสงแดดจัด งดอาบแดด งดซาวน่า ก่อนเข้ารับการเลเซอร์ขน และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป
- ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน
การดูแลตัวเองหลังทำ YAG Laser
- หลังทำ YAG Laser หรือ ND YAG Laser อาจทำให้ผิวหนังมีรอยแดงเล็กน้อย และจะหายได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
- หลังทำ YAG Laser สามารถประคบเย็นเพื่อลดการระคายเคืองได้
- งดการอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น บริเวณที่ทำ YAG Laser
- หลีกเลี่ยงในการอยู่ในที่ที่แดดจัด เป็นเวลานาน ๆ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป
- งดทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก เช่น การอาบแดด, ปั่นจักรยาน รวมถึงงดการว่ายน้ำ
- งดการทำสครับผิวบริเวณที่ทำ YAG Laser
บทความที่น่าสนใจ
- รอยแตกลายสีขาว สีแดง เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรให้ผิวกลับมาเรียบเนียน อ่านเพิ่มเติมที่ รอยแตกลายรักษาให้หายได้
- ชวนคุณแม่หลังคลอดมาเช็ครอยแตกลายว่ามีบริเวณใดบ้าง พร้อมแนะนำวิธีรักษา อ่านเพิ่มเติมที่ 6 จุดเสี่ยงรอยแตกหลังคลอด
คำถามยอดฮิต
A : YAG Laser คือ เลเซอร์ที่มีความอ่อนโยนกับผิวพรรณค่อนข้างสูงค่ะ ซึ่งในระหว่างการทำจะมีการปล่อยแก๊สเย็นออกมาก่อนที่จะยิงเลเซอร์ ทำให้ผิวของผู้เข้ารับบริการเย็นจนเกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ ทำให้ไม่รู้สึกแสบร้อนผิวระหว่างยิงเลเซอร์ แต่หากในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการมีผิวที่ค่อนข้างบอบบาง ในระหว่างทำเลเซอร์อาจมีความรู้สึกอุ่น ๆ ยิบ ๆ ที่ผิวหนังได้บ้าง ทั้งนี้ ความรู้สึกเจ็บอาจขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำเลเซอร์ ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาทายาชาทิ้งไว้ก่อนทำเลเซอร์ประมาณ 1 ชั่วโมง
A : การทำเลเซอร์กำจัดขน YAG Laser ในแต่ละครั้งจะสามารถกำจัดเส้นขนได้ 20-30% ของเส้นทั้งหมดในบริเวณที่ทำเลเซอร์ และแนะนำว่าควรทำเลเซอร์กำจัดขนต่อเนื่องอย่างน้อย 5-8 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณความหนาแน่นของเส้นขนบริเวณที่ทำ) โดยเว้นระยะห่างในการทำเลเซอร์แต่ละครั้งประมาณ 4 สัปดาห์
A : การเลือกทำเลเซอร์กำจัดขนทุกชนิด หรือการทำ YAG Laser ที่ไหนดีนั้น อันดับแรก หมอแนะนำว่าให้เลือกจากความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษาเป็นปัจจัยสำคัญค่ะ เพราะแพทย์ผู้ชำนาญการจะมีทักษะและมีประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้การวางแผนการรักษามีความเหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการมากที่สุด สามารถปรับค่าความเข้มข้นของพลังงานให้อยู่ในช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม จะทำให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนปัจจัยต่อมา คือ เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และมีเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่ได้มาตรฐาน รวมถึงปัจจัยเรื่องราคา ก็ต้องเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และยังต้องมีการบริการที่ดี เอาใจใส่ คอยติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องค่ะ
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ND YAG Laser หรือ YAG Laser คืออะไร ที่หมอมะปรางได้นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าหลายคนที่กำลังเล็ง ๆ อยากกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์คงจะพอมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันบ้างแล้ว หรือหากยังลังเลอยู่ว่าจะทำ YAG Laser ที่ไหนดี หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์เข้ามาพูดคุยกันได้ที่ LINE : @amaraskin หมอยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ