เมื่อคุณย่างกรายเข้าสู่วัยทำงานแล้ว แปลว่าอายุของคุณเริ่มเป็นผู้ใหญ่ หนึ่งในสิ่งกวนใจที่อาจจะเกิดขึ้นบนใบหน้าของเราได้ก็คือ “ตีนกา” หรือ “ริ้วรอยบริเวณหางตา” ค่ะ ตอนที่เรายังอายุน้อย ๆ หน้านี่เด้งเต่งตึงมากเลยใช่มั้ยคะ เพราะว่าผิวของเรามีคอลลาเจนอัดแน่นอยู่เยอะ ผิวเลยยืดหยุ่นสูง และไม่มีริ้วรอยความเหี่ยวย่นหรือรอยตีนกาแต่อย่างใด! จากที่บอกไปในตอนแรก อายุที่เพิ่มขึ้น สภาพร่างกายยิ่งถดถอยลง หากไม่ได้มีการรับมือป้องกันดี ๆ หรือเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราอยู่เสมอ รอยตีนกาก็จะยิ่งชัด ยิ่งลึก และยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจได้ ใครไม่อยากมีตีนกากวนใจอีกต่อไป หมอพร้อมแนะนำวิธีบอกลารอยตีนกาแล้วค่ะ ^^ – หมอตวง แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ประจำ Amara Clinic
ริ้วรอยหางตาหรือตีนกา (Crow’s Feet) จะมีลักษณะเป็นริ้วเส้นเล็ก ๆ อยู่บริเวณหางตาทั้งสองข้าง อาจจะพบได้ทั้งตอนที่ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ หรือตอนที่แสดงสีหน้าต่าง ๆ เช่น ยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว ฯลฯ ปัญหารอยตีนกาจะเกิดขึ้นเมื่อผิวของเราขาดความยืดหยุ่น หรือคอลลาเจนในบริเวณนั้นถูกทำลายไป จากการที่บริเวณนั้นมีรอยพับเกิดขึ้นบ่อย ๆ และจริง ๆ แล้ว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ บนร่างกายมันจะเกิดขึ้นได้ง่ายเป็นปกติ แต่บริเวณใบหน้าอาจจะพบเห็นได้บ่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากใบหน้าเป็นส่วนที่ต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ อยู่ทุกวัน
นอกจากริ้วรอยบริเวณหางตา ริ้วรอยรอบดวงตา หรือบริเวณตีนกาแล้ว ยังมีริ้วรอยในบริเวณอื่น ๆ ของใบหน้าที่สามารถเกิดขึ้นได้ จนทำให้ใบหน้าของเราดูแก่ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เช่น รอยย่นที่หน้าผาก, ร่องแก้ม, ร่องมุมปาก, รอยย่นระหว่างคิ้ว, รอยย่นที่สันจมูก ฯลฯ อย่าลืมนะคะว่ายิ่งมีริ้วรอยพวกนี้มากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะมีปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยยิ่งมากขึ้นค่ะ
สาเหตุที่ทำให้เรามีตีนกา-ริ้วรอยหางตา
สาเหตุที่ทำให้มีรอยตีนกาเกิดขึ้นบนใบหน้า หมอจะแบ่งเป็นสาเหตุตั้งต้นและสาเหตุที่ตามมานะคะ โดยจะเริ่มจากสาเหตุที่ตามมาก่อน เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจมากขึ้นค่ะ ก่อนอื่นเลยมารู้จักกับโครงสร้างผิวหนังของเรากันก่อนนะคะ ชั้นหนังแท้จะเป็นชั้นที่อยู่ใกล้กันกับชั้นไขมันมากที่สุด ซึ่งในชั้นผิวหนังแท้นี้ จะมีคอลลาเจนและอีลาสตินอาศัยอยู่ โดยคอลลาเจนและอีลาสตินจะมีหน้าที่คล้าย ๆ กับกาว มีลักษณะเป็นเกลียวที่มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อความหนาแน่นของคอลลาเจนและอีลาสตินเยอะ ก็ยิ่งยืดหยุ่นมากขึ้นเท่านั้น (จิ้มผิวแล้วเด้งทันที ยืดแล้วหดกลับทันที) และแปลว่าผิวของเรามีความชุ่มชื้นและแข็งแรงมาก
จากภาพที่หมอใส่ประกอบจะเห็นได้ว่าคนที่มีผิวที่ดีชั้นคอลลาเจนจะหนาแน่นมาก และคนที่ผิวไม่ดี มีริ้ยรอยเยอะ มีตีนกา ผิวหย่อนคล้อย และปัญหาผิวต่าง ๆ นา ๆ ชั้นคอลลาเจนจะขาดแหว่งไป (ลองนึกภาพของการมีเชื่อแน่น ๆ ขลึงชั้นผิวบนและล่างไว้ พอเชือกขาด ก็เหมือนการเสียการทรงตัว ผิวจึงขาดสิ่งเหนี่ยวรั้ง ความกระชับ และห้อยย้อยลงมากลายเป็นริ้วรอยตีนกานั่นเอง) แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นสาเหตุตั้งต้นทำให้เกิดการทำลายคอลลาเจนใต้ผิว และทำให้ผิวของเราขาดคอลลาเจน!? มาดูกันค่ะ
การแสดงสีหน้า
พฤติกรรมการแสดงสีหน้า จะทำให้กล้ามเนื้อเล็ก ๆ บนใบหน้าทำงาน เมื่อยิ้มหรือหัวเราะ กล้ามเนื้อในบริเวณหางตาและบริเวณใกล้เคียงก็จะยับ ผิวหนังก็จะขยับตามไปด้วย เมื่อผิวถูกบังคับให้หดตัวและคลายตัวบ่อย ๆ เลยทำให้คอลลาเจนเริ่มสลายตัวและสูญเสียความยืดหยุ่นที่เคยมีไปค่ะ เลยทำให้เรามีริ้วรอย มีตีนกา หรือมีรอยยับเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนใบหน้านี่เอง
ปัจจัยเรื่องอายุ
เคยเห็นผิวของคนอายุมาก ๆ ไหมคะ ที่มีลักษณะเหี่ยวย่น สามารถดึงผิวยืดออกมาได้เลย เมื่อสัมผัสจะรับรู้ได้ว่าผิวไม่เด้ง ไม่กระชับ มีแต่ริ้วรอยเล็ก ๆ เต็มไปหมด และแทบจะไม่มีไขมันอยู่เลย ส่วนใหญ่จับไปจะเจอกล้ามเนื้อหรือกระดูกที่อยู่รองจากผิวเลยค่ะ มันเกิดจากการเสื่อมโทรมของร่างกายที่เป็นปกติ หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่สามารถทำให้เกิดขึ้นช้าลงได้ค่ะ ช่วงที่เราอายุน้อยระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเรามันก็ทำงานตามปกติ อัตราการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินก็เต็มที่ แต่พอร่างกายเริ่มโทรมลง อัตราเหล่านี้ก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ ชั้นคอลลาเจนจึงไม่หนาแน่นเท่าเดิม และตามมาด้วยความหย่อนคล้อยและตีนกาค่ะ
แสงแดดและมลภาวะ
แสงแดดเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด จะคอยทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวคล้ำเสีย และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ อย่างตีนกาได้ง่ายมากขึ้น โดย UVA จะเป็นสิ่งที่ลงลึกได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ที่คอลลาเจนอาศัยอยู่ ส่งผลให้คอลลาเจนขาดความเต่งตึงไป ริ้วรอยจึงเพิ่มมากขึ้น ตามมาด้วยฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำของผิว ส่วน UVB ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง แสบร้อนที่ผิว มีอาการแดง ผิวไหม้ และอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
วิธีรักษาและลดเลือนตีนกา
สำหรับคนที่มีริ้วรอยหางตา ริ้วรอยรอบดวงตา หรือตีนกาขึ้นมาแล้ว อยากให้มันลดเลือนและจางหายไป เพราะมีแล้วหน้าดูแก่ หมอก็มีวิธีการรักษาตีนกามาแนะนำหลายวิธีเลยค่ะ แต่ละวิธีจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งในเรื่องของความมั่นใจ ความเหมาะสม ความสะดวก และงบประมาณได้เลยค่ะ
ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น
ทาครีมบำรุงเพื่อเต็มเต็มความชุ่มชื้น และทำให้รอยตีนกาดูจางลง โดยแนะนำให้เลือกครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบเป็นสารต้านอนุมูลอิสาระ อย่างวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และเบตาแคโรทีนค่ะ แต่ต้องทำความเข้าใจและยอมรับว่าวิธีนี้ มันช่วยได้ในระดับนึงเท่านั้น เสมือนเป็นการบรรเทาอาการไม่ให้แย่ลงกว่าเดิม ไม่ใช่การทำให้หายไปเลย อีกทั้งยังต้องใช้ระยะเวลาสักพักอีกด้วยค่ะ
ฉีด Botulinum Toxin
การฉีดโบ หรือฉีด Botulinum Toxin เข้าไป เป็นวิธีลดตีนกาหรือลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเลยล่ะค่ะ การฉีดโบจะเข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ขยับ รอยพับที่ทำให้มีตีนกาก็จะไม่เกิดขึ้น เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยไม่เยอะมาก อายุยังไม่มากเท่าไหร่ ไม่ได้มีผิวหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง โดยการฉีด 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้ 2-3 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ บางคนอาจจะไปเจอคลินิกที่ผสมตัวยาจริงน้อย ผสมน้ำเกลือเยอะ ผลลัพธ์ก็จะไม่ได้ชัดเจนมากนัก เป็นต้นค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์
บริเวณรอยยับตีนกาและผิวที่เหี่ยวย่น มันจะมีช่องว่างอยู่ การฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ก็สามารถช่วยทำให้บริเวณนั้นเต็มขึ้น เต่งตึงขึ้น และทำให้รอยตีนกาจางตัวลงไปได้มาก แต่การฉีดฟิลเลอร์จะต้องเลือกคลินิกดี ๆ และหมอเก่ง ๆ นะคะ เพราะมีฟิลเลอร์ปลอมราคาถูกแพร่ระบาดอยู่มาก แพทย์ต้องเลือกชนิดของฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม และรู้ว่าควรฉีดอย่างไรจึงจะออกมาดีค่ะ แม้ตีนกาจะเป็นตำแหน่งเล็ก ๆ แต่ก็ใกล้กับดวงตาและเข้าไปอยู่ในร่างกายของเรา เราจึงต้องพิจารณาและเลือกให้ดีนะคะ ทั้งนี้ ฟิลเลอร์แท้จะมีผลอยู่ได้นาน 6-12 เดือน จากนั้นจะค่อย ๆ สลายหายไปเองค่ะ
Ultraformer III
พูดถึงการยกกระชับใบหน้าลดเลือนริ้วรอย ลดรอยตีนกา หลาย ๆ คนอาจจะเล็งไปที่ HIFU ใช่ไหมคะ ซึ่ง Ultraformer III ก็เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานเดียวกันกับ HIFU ค่ะ แต่มีพลังงานที่เข้มข้นกว่า สูงกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนกว่า HIFU ถึง 5 เท่า (MMFU : Micro & Macro Focused Ultrasound) ขณะที่ทำ Ultraformer III พลังงานจะลงลึกไปถึงทุกชั้นผิว ทำให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน พร้อมกับลงไปยกกระชับถึงชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า (SMAS) ทำให้รอยตีนกาที่เคยมีถูกยกกระชับขึ้นและหายไป ผลลัพธ์จะอยู่เพียงชั่วคราว แต่ก็นานถึง 6 เดือนเลยล่ะค่ะ
Morpheus8
นวัตกรรมใหม่ในการแก้ปัญหาผิวยับอีกเครื่องนึงคือ Morpheus8 ค่ะ เครื่อง Morpheus8 ไม่ใช่การใช้พลังงานเดียวกันกับ Ultraformer III แต่เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ RF (Radio Frequency) นั่นเอง โดยที่เครื่อง Morpheus8 จะสามารถแก้ปัญหาผิวหนังได้อย่างตรงจุดทุกปัญหาผิว เพราะพลังงานสามารถลงลึกไปยังชั้นผิวได้ทุกระดับชั้น (Multi-Layer Technology) และสามารถปรับระดับของค่าพลังงานให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะรักษาได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดเลือนรอยแตกลาย รอยแผลเป็น และช่วยแก้ปัญหาสีผิวได้ในครั้งเดียวอีกด้วยค่ะ
ตีนกาป้องกันได้ไหม? ทำยังไงบ้าง?
ตีนกาสามารถป้องกันและทำให้มันเกิดขึ้นน้อยหรือช้าลงได้ ดังนี้
- คอยปกป้องผิวจากแสงแดด พยายามไม่ให้ผิวกระทบกับแสงแดดโดยตรง แนะนำให้ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมทุกวัน คอยเติมครีมกันแดดในระหว่างวัน และสวมเสื้อคลุม ใส่กางเกงแขนยาว สวมหมวก หรือกางร่มเมื่อออกกลางแจ้ง
- หมั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและเย็น หมอแนะนำให้ทาครีมบำรุงผิว, Moisturizer, ครีมลดริ้วรอย, มาส์กหน้า ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวแห้ง อย่าลืมเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตัวเองด้วยนะคะ
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ หากเราดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ร่างกายดึงน้ำไปใช้งาน และเซลล์กักเก็บอุ้มน้ำไว้มากเท่าไหร่ คอลลาเจนก็จะฟูตัวมากขึ้น ส่งผลให้ผิวของเรามีสุขภาพที่ดี นุ่มลื่น เด้ง และเต่งตึง ห่างไกลจากริ้วรอยตีนกาได้
- พยายามไม่แสดงสีหน้ามากจนเกินไป ลดความเครียด หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้ว และไม่ทำหน้ายู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยยับที่ใบหน้า และทำให้ผิวขาดความกระชับยืดหยุ่น
- หลีกเลี่ยงการเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการขับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้เราปวดปัสสาวะบ่อย เมื่อปัสสาวะออกไปเท่าไหร่ ร่างกายก็จะเสียน้ำมากขึ้นเท่านั้น หากต้องการดื่มแอลกอฮอล์แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าร่วมด้วย เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป
- ไม่อยากผิวเหี่ยวไวอย่าสูบบุหรี่และต้องหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ค่ะ เพราะในบุหรี่จะมีอนุมูลอิสระมากมาย รวมไปถึงสารเคมีที่ทำให้ผิวของเราเสื่อมโทรมได้ง่ายขึ้น จากคอลลาเจนที่เป็นเหมือนกาวยึดแน่น ก็จะบางลงและขาดออกจากกัน ลองสังเกตผิวของคนที่สูบบุหรี่กับคนที่ไม่สูบบุหรี่ดูนะคะ จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
ตีนกาไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่อายุมากเพียงอย่างเดียว ถ้าเราอายุน้อยแต่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ และมีปัจจัยเสี่ยงในการทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน ก็สามารถมีปัญหาริ้วรอยหางตาได้เช่นกันค่ะ แม้เราจะหลีกเลี่ยงไม่ให้รอยตีนกาเกิดขึ้นมาเลยไม่ได้ แต่เราก็สามารถและบรรเทามันให้จางลงได้ตามวิธีที่หมอได้แนะนำไปเลยค่ะ สุดท้ายนี้ อย่าลืมเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เครื่องมือได้มาตรฐาน แพทย์มีฝีมือ และราคาเหมาะสมนะคะ นอกจากนี้ การดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรพลาดค่ะ