มาส์กหน้าทุกวัน ดีไหม? เคล็ดลับผิวสวยสำหรับคนขี้เกียจ

มาส์กหน้าทุกวัน

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้หมอตวงจาก AMARA จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการมาส์กหน้าทุกวัน ว่าจริง ๆ แล้วมันดีต่อผิวแค่ไหน หลายคนอาจคิดว่าการมาส์กหน้าช่วยบำรุงได้ล้ำลึกกว่าการทาครีมธรรมดา และบางครั้งเราก็ยุ่งจนไม่มีเวลาบำรุงผิวหลายขั้นตอน หมอเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลยค่ะ! แต่คำถามคือ การมาส์กหน้าบ่อย ๆ จะช่วยผิวได้จริง หรือเสี่ยงต่อการทำร้ายผิวกันแน่? วันนี้หมอจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ ว่าควรมาส์กหน้าทุกวันหรือไม่ และทำอย่างไรให้ผิวสวยได้อย่างปลอดภัยไม่ทำร้ายผิว

มาส์กหน้าทุกวัน

มาส์กหน้าทุกวันได้ไหม?


การมาส์กหน้า คือการทาหรือแปะแผ่นมาส์กหน้า เพื่อเติมความชุ่มชื้นและสารอาหารเข้าสู่ผิวโดยตรง โดยมาส์กจะมีหลายรูปแบบ เช่น มาส์กแผ่น มาส์กครีม หรือมาส์กแบบไม่ต้องล้างออก ส่วนความคาดหวังหลังใช้ก็เพื่อกระชับผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง กระจ่างใส ยับยั้งจุดด่างดำ และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสม โดยการมาส์กหน้านับเป็นหนึ่งในสกินแคร์รูทีนที่หลายคนนิยมทำกันค่ะ

แล้วมาส์กหน้าทุกวันได้ไหม ดีจริงหรือเปล่า? หมอขอบอกว่าไม่จริงเสมอไปค่ะ! เพราะต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ที่สำคัญคือส่วนประกอบของมาส์ก เช่น หากมีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวหน้า จึงไม่ควรใช้ทุกวัน และสภาพผิวบางแบบควรเลี่ยงการใช้ทุกวัน เช่น ผิวบอบบางหรือผิวที่เป็นสิวง่ายเพราะสารประกอบเข้มข้นอาจทำให้อุดตันและระคายเคือง แต่หากต้องการมาส์กหน้าทุกวัน หมอแนะนำให้ใช้มาส์กที่อ่อนโยนและเน้นให้ความชุ่มชื้นค่ะ

มาส์กหน้าทุกวัน มีข้อเสียไหม?


การมาส์กหน้าทุกวันนั้นมีข้อเสียแน่นอนหากมาส์กผิดวิธี แม้การมาส์กหน้าจะช่วยเติมความชุ่มชื้น บำรุงผิว และแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย แต่หากทำแบบไม่ถูกวิธีก็อาจส่งผลเสียต่อผิวได้ โดยเฉพาะหากไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือมีส่วนผสมที่เข้มข้นเกินไป อันจะทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น

  • ผิวระคายเคือง การมาส์กหน้าทุกวันอาจทำให้เกิดการสูญเสียความสมดุลของน้ำมันธรรมชาติในผิว ส่งผลให้ผิวระคายเคือง ผิวแห้ง หรือขาดน้ำได้ โดยเฉพาะหากใช้มาส์กที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรงหรือกรดที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA หรือ BHA หรือมีการทิ้งมาส์กไว้บนผิวหน้านานเกินเวลาที่กำหนดบนบรรจุภัณฑ์
  • เกิดการอุดตันของรูขุมขน แม้ว่ามาส์กหน้าจะช่วยทำความสะอาดผิว แต่การใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันได้จากสารตกค้างได้ค่ะ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวอุดตัน ผดผื่น หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ร่วมด้วย
  • ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หากมาส์กที่ใช้มีสารออกฤทธิ์เข้มข้นและใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวเกิดความเสียหายมากกว่าประโยชน์ ส่งผลให้ผิวบางลง เกิดริ้วรอย หรือมีการอักเสบได้ในระยะยาวค่ะ
  • แบคทีเรียบนผิวเสียสมดุล ผิวของเรามีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว การมาส์กทุกวันอาจทำลายแบคทีเรียเหล่านี้ ทำให้ผิวสูญเสียเกราะป้องกันตามธรรมชาติ และอาจเกิดอาการแพ้หรือปัญหาผิวที่รุนแรงขึ้นได้
  • เปลืองเงินและเวลาโดยไม่จำเป็น การมาส์กหน้าทุกวันอาจทำให้สิ้นเปลืองเงินและเวลาโดยไม่จำเป็น เพราะผิวไม่จำเป็นต้องรับการบำรุงมากขนาดนั้น และสำหรับบางคนก็มีการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ตัวอื่น ๆ อยู่แล้ว ยิ่งกับคนที่มีการบำรุงด้วยส่วนผสมซ้ำซ้อน นอกจากจะสิ้นเปลืองแล้วยังเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย การดูแลผิวอย่างเหมาะสมและเป็นประจำถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการมาส์กทุกวันหรือบ่อยเกินไปค่ะ

เคล็ดลับมาส์กหน้าทุกวัน ฉบับคนขี้เกียจ!


สำหรับคนที่มีเวลาน้อยแต่ยังต้องการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกมาส์กที่ใช้ง่ายและสะดวกจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ วันนี้หมอจะมาแชร์เคล็ดลับการมาส์กหน้าให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้ทุกคนสามารถบำรุงผิวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องใช้เวลามากมายค่ะ

  1. มาส์กชีท (Sheet Mask)

    การใช้แผ่นมาส์กหน้าเป็นวิธีบำรุงผิวที่ง่ายและหาได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อหรือทางออนไลน์ ใช้เวลาเพียง 10 – 20 นาทีในแต่ละครั้ง ในมาส์กอุดมไปด้วยสารสกัดและเซรั่มบำรุงเข้มข้น หลังจากมาส์กเสร็จแนะนำให้นวดหรือตบผิวเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการซึมซาบ แต่ต้องระวังอย่าทิ้งแผ่นมาส์กไว้นานจนแห้ง เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ และที่สำคัญก่อนมาส์กหน้าควรล้างหน้าให้สะอาดเพื่อเปิดรูขุมขนและป้องกันการอุดตันค่ะ

  2. มาส์กสำหรับกลางคืน (Sleeping Mask)

    สลีปปิ้งมาส์กเป็นตัวช่วยที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากบำรุงผิวแต่มีเวลาน้อย เพราะสามารถมาส์กหน้าได้ทุกวันเลยค่ะ แค่ทาแล้วนอน ไม่ต้องล้างออก! (ยกเว้นบางสูตรที่ต้องล้าง แนะนำให้อ่านฉลากดี ๆ นะคะ) จะใช้เดี่ยว ๆ หรือทาหลังลงครีมตัวอื่นเรียบร้อยแล้วก็ได้เช่นกัน แถมยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้อย่างยาวนาน แนะนำให้เลือกสูตรอ่อนโยนเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองค่ะ

  3. ใช้มาส์กที่มีสารสกัดหลายอย่าง

    ถ้าอยากมาส์กหน้าทุกวันให้ได้ผลดีและคุ้มค่าที่สุด แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมหลายอย่างค่ะ เช่น ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น, วิตามินซีช่วยให้ผิวกระจ่างใส หรือว่านหางจระเข้ (Aloe vera) ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง ใช้มาส์กที่มีส่วนผสมหลากหลายจะได้บำรุงหลายอย่างในครั้งเดียว แต่หากใช้มาส์กมีส่วนผสมเข้มข้นอย่างกรดผลไม้หรือวิตามินซี ควรใช้สลับกับสูตรอ่อนโยนเพื่อป้องกันการระคายเคือง และจะต้องระวังเรื่องส่วนผสมในสกินแคร์ที่ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ไว้ด้วยนะคะ

3 เคล็ดลับฟื้นฟูผิวอย่างรวดเร็ว เพื่อผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ!


การมาส์กหน้าทุกวันเป็นวิธีที่หลายคนใช้กันเพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำจากมลภาวะและแสงหน้าจอค่ะ ถึงจะเป็นวิธีที่ง่าย ทำเองได้ที่บ้าน แต่ต้องใช้เวลานิดนึงนะคะ บางคนอาจรู้สึกว่าผิวดีขึ้นภายในข้ามคืน แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน แนะนำให้ทำต่อเนื่องหลายเดือน เพื่อให้ผิวฟื้นฟูจากภายในอย่างเต็มที่

สำหรับคนที่มาส์กหน้าแล้วไม่เห็นผล หมอแนะนำเทคโนโลยี Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) ที่ลงลึกถึงชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิวหนัง การทำงานของ Morpheus8 จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน สามารถแก้ปัญหาผิวอย่างครอบคลุม ตั้งแต่ผิวหย่อนคล้อยยับย่น แก้มห้อย ปัญหาถุงใต้ตา รอยแผลเป็น รอยสิว ริ้วรอย สีผิวคล้ำ แม้กระทั่งรอยแตกลาย ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและทั่วร่างกายค่ะ ที่สำคัญคือเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำค่ะ แต่ผลจะชัดขึ้นใน 3 สัปดาห์ และชัดเจนที่สุดใน 3 เดือนค่ะ

นอกจาก Morpheus8 แล้ว ทาง AMARA ยังมีบริการ Meso White หรือเมโสหน้าใส เป็นการฉีดมัลติวิตามินและสารบำรุงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เข้าสู่ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น กระชับรูขุมขนได้อย่างรวดเร็ว! เพราะบางครั้งการทาครีมหรือมาส์กก็ไม่อาจซึมลึกถึงชั้นผิวกลางซึ่งผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้เหมือนการฉีด เมื่อทำ Meso White แล้วการมาส์กหน้าทุกวันไม่จำเป็นอีกต่อไปค่ะ!

บริการสุดท้ายที่หมออยากพูดถึงคือ Aura Collagen ค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถแก้ปัญหาผิวคล้ายกับเมโสหน้าใส แต่มีความแตกต่างที่ส่วนผสมหลักค่ะ Aura Collagen ใช้การฉีดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูฉ่ำวาวเป็น Glass Skin และเพิ่มความยืดหยุ่นได้ดีมาก ๆ ขณะที่เมโสหน้าใสเน้นที่การกระจ่างใสและปรับสีผิวค่ะ หากใครอยากทราบว่าผิวตัวเองเหมาะกับหัตถการแบบไหน สามารถเข้ามาปรึกษาหมอตวงได้เสมอนะคะ พร้อมให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนค่ะ!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ มาส์กหน้าทุกวัน


ทุกคนคงได้คำตอบเกี่ยวกับการมาส์กหน้าทุกวันไปแล้วใช่ไหมคะ? แต่หมอคาดว่าหลายคนอาจยังมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมที่ยังไม่ได้รับคำตอบ หรืออยากได้คำแนะนำในการเลือกใช้มาส์กเพิ่มเติม หมอจึงรวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่ถูกต้องไว้ให้ทุกคนได้คลายข้อสงสัยกันค่ะ

สามารถมาส์กหน้าได้ทุกเวลาตามความสะดวก หากมาส์กในตอนเช้า ผิวจะดูสดชื่นและแต่งหน้าติดทนขึ้น แต่หมอแนะนำให้มาส์กก่อนนอนจะดีที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผิวฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ การมาส์กก่อนนอนยังช่วยให้ส่วนผสมจากมาส์กซึมลึกและทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องมลภาวะที่อาจมากระทบผิวภายหลัง

แน่นอนว่าต้องล้างค่ะ ก่อนการมาส์กหน้าควรทำความสะอาดผิวให้ดีเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ความมัน และฝุ่นละอองที่ตกค้างในรูขุมขน การล้างหน้าให้สะอาดยังช่วยให้สารบำรุงจากมาส์กซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ควรมาส์กหน้าก่อนทาครีมบำรุงค่ะ หลังจากล้างหน้าและมาส์กเสร็จแล้ว นวดเบา ๆ และปล่อยให้มาส์กซึมเข้าสู่ผิว จากนั้นจึงทาครีมบำรุงต่าง ๆ ต่อไป การทำแบบนี้จะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากมาส์ก และครีมบำรุงจะช่วยล็อกความชุ่มชื้นและสารอาหารต่าง ๆ ให้อยู่ในผิวได้นานขึ้นค่ะ

สรุป


        มาส์กหน้าทุกวัน สามารถทำได้หากเป็นมาส์กแบบอ่อนโยน แต่ถ้ามาส์กมีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว ควรใช้เพียงสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันการระคายเคือง การมาส์กหน้าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสารอาหารให้กับผิว ซึ่งมีหลายประเภทและสูตร ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการเฉพาะของผิว และควรมาส์กอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ในระยะยาว


แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    บทความที่เกี่ยวข้อง

    ‘สกินแคร์ รูทีน’ ขั้นตอนดูแลผิวที่เราสร้างได้!

    อ่านเพิ่มเติมที่นี่

    รวม 6 วิธี ‘ผลัดเซลล์ผิวหน้า’ ทำอย่างไรให้ผิวใสไร้สิว?

    อ่านเพิ่มเติมที่นี่

    วิตามินลดสิว ตัวไหนช่วยให้หน้าใส ต้องอ่าน!

    อ่านเพิ่มเติมที่นี่