ผิวแห้งเป็นขุย ปัญหาที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสามัญทั่วไปที่เราคุ้นชินกันดี แต่รู้ไหมคะว่าปัญหาผิวแห้งสามารถนำไปสู่ปัญหาผิวได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน ริ้วรอย ผิวลอก และอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้หมอจึงอยากชวนทุกคนไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการผิวแห้งเป็นขุย พร้อมแนวทางกอบกู้ผิวของเราให้อิ่มน้ำสุขภาพดีกว่าเคย เพราะผิวพรรณที่เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ล้วนเป็นผิวที่ใครก็ต่างต้องการมี ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิวแห้งแตกอยู่จึงไม่ควรละเลย และมาเริ่มดูแลผิวไปพร้อม ๆ กับหมอกันเลยค่ะ – หมอตวง Amara Clinic
เรื่องของความชุ่มชื้นในผิวเป็นเรื่องที่ต้องแคร์อย่างมากค่ะ เพราะหากว่าน้ำในผิวของเราเสียสมดุลเมื่อไหร่ สิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากก็คือ อาการผิวแห้งเป็นขุย ซึ่งปัญหานี้ส่งผลต่อความสวยงามและสุขภาพของผิวอย่างมากค่ะ อย่างในคนที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งลอก นอกจากจะก่อให้เกิดความแสบและคันของผิวแล้ว ยังทำให้ผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ และอีกปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับสาว ๆ ที่หน้าแห้งคือปัญหาแต่งหน้าไม่ติด หรือแต่งแล้วตกร่องและหลุดง่ายขึ้น เพื่อให้ผิวของเราแข็งแรงและฉ่ำวาวยิ่งขึ้น เราจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมากค่ะ
ระดับความรุนแรงของปัญหาแห้งของผิว
-
ระดับ 1 ผิวแห้งเป็นบางเวลา
สำหรับคนที่มีอาการผิวแห้งในช่วงระยะเริ่มต้น มักจะสัมผัสได้ถึงความแห้งได้ในบางช่วงของวัน เช่น เวลาหลังอาบน้ำ หรือ ในช่วงที่อากาศมีอุณหภูมิต่ำลง
-
ระดับ 2 ผิวแห้งกร้านตลอดเวลา
หากผิวเริ่มมีการสูญเสียน้ำแล้วไม่ได้รับการบำรุง จะส่งผลให้ผิวเกิดความแห้งรุนแรงขึ้น โดยสังเกตได้จากความหยาบกร้านที่เพิ่มมากขึ้น และในบางเคสอาจเริ่มมีอาการแตกและลอกเล็กน้อย
-
ระดับ 3 ผิวแห้งเป็นขุย
เมื่อผิวมีความอ่อนแอและขาดน้ำอย่างมาก จะก่อให้เกิดอาการผิวแห้งเป็นขุย ในบางเคสอาจมีความคันและแสบผิวเมื่อต้องใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีน้ำหอม ผิวที่แห้งจนเป็นขุยมักจะเกิดริ้วรอยและอาการระคายเคืองได้ง่ายกว่าคนทั่วไป จึงทำให้คนที่มีผิวแห้งเกิดปัญหาหน้าไหม้แดดง่าย และยังรวมไปถึงตีนกาและร่องลึกที่เกิดขึ้นได้ไวกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ ดังนั้นจึงควรรีบบำรุงผิวและมาพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยอาการบรรเทาและหายไวขึ้นค่ะ
ผิวแห้งเป็นขุย ส่งผลเสียอย่างไร?
อาการผิวแห้งเป็นขุย สามารถส่งผลเสียได้ทั้งในด้านของสุขภาพและความงามค่ะ
ด้านสุขภาพ – ปัญหาผิวแห้งในด้านของสุขภาพ ก่อให้ผิวของผู้ที่มีความแห้งและขาดน้ำมาก ๆ เกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น เมื่อผิวไปสัมผัสกับน้ำหอมเพียงเล็กน้อย ก็อาจกลายเป็นผื่นแดงคันได้มากกว่าคนที่มีสภาพผิวทั่วไป นอกจากอาการผิวแห้งจะทำให้ระคายเคืองง่ายแล้ว ยังก่อให้เกิดอาการแสบคันที่ผิวได้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นการรักษาความชุ่มชื้นของผิวจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาดเลยค่ะ
ด้านภาพลักษณ์ – สำหรับผลกระทบในส่วนนี้ ถือเป็นผลกระทบที่ก่อให้เกิดความกังวลในเรื่องของความสวยงามได้อย่างมากค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ที่ชื่นชอบเรื่องความสวยงาม เพราะอาการผิวแห้งนอกจากจะทำให้ผิวเป็นขุยแล้ว สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือปัญหาผิวลายและเป็นรอยแตก ซึ่งอาการนี้เกิดได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัว หลายคนที่มีผิวแห้งที่ใบหน้าก็มักจะแต่งหน้าแล้วเป็นร่องง่ายขึ้น รวมทั้งยังทำให้ใบหน้าดูไม่อิ่มฟู ฉ่ำวาว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต่างทำให้ความเรียบเนียนแบบที่ทุกคนต้องการหายไป
ผิวแห้ง เกิดจากอะไร?
เรามาดูกันในส่วนของสาเหตุกันบ้างนะคะ สำหรับสาเหตุของปัญหาผิวแห้งเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกค่ะ ที่ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอจนเกิดเป็นปัญหาผิวแห้งตามมา ซึ่งสาเหตุหลักที่พบบ่อยมีดังนี้ค่ะ
อายุ
เมื่ออายุมากขึ้นส่งผลให้ร่างกายผลิตไขมันในผิวได้ลดลง เกราะป้องผิวจึงอ่อนแอและรักษาสมดุลของน้ำในผิวได้ไม่ดี จนก่อให้เกิดอาการผิวแห้งขึ้นมาค่ะ
ผิวขาดน้ำ
สาเหตุผิวแห้งเป็นขุยเนื่องจากการขาดน้ำ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัยเลยค่ะ ซึ่งอาการขาดน้ำก็เกิดได้จากทั้งการดื่มน้ำน้อย ขาดการบำรุงผิว รวมทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยค่ะ เมื่อผิวสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมากแล้วขาดการดูแล ก็ยิ่งทำให้ผิวเป็นขุยได้นานและหนักขึ้นค่ะ
สภาพอากาศ
ทั้งความร้อนหรือเย็นจัดต่างก็ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแห้งได้ค่ะ เพราะสภาพอากาศถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวของเราสูญเสียน้ำได้ เช่น ในช่วงที่อากาศเย็นลงก็จะพบว่าผิวเริ่มมีความลอกและแต่ กว่าในช่วงฤดูฝนที่มีค่าความชื้นสูงค่ะ แต่ถ้าหากเรามีการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหนก็เอาอยู่ทุกฤดูแน่นอนค่ะ
พฤติกรรมการอาบน้ำ
การอาบน้ำแม้จะช่วยให้ร่างกายสะอาดและเพิ่มความสดชื่นให้ผิว แต่หากเป็นการอาบน้ำที่มากเกินไปหรือนานเกินไป ก็จะเป็นการส่งผลเสียให้กับผิวได้อย่างมากเลยค่ะ อย่างเช่นคนที่อาบน้ำอุ่นเป็นประจำก็จะมีโอกาสผิวแห้งได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากความร้อนของน้ำที่อาบจะดึงความชุ่มชื้นของผิวออกไปด้วย ดังนั้นใครที่อาบน้ำอุ่นเป็นประจำและอาบนานเกิน 20 นาที ถือเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ผิวแห้งเป็นขุยได้ค่ะ
ร่างกายขาดวิตามิน
มีคนไข้ไม่น้อยเลยค่ะที่มีปัญหาผิวเพราะไม่ค่อยทานวิตามิน เมื่อร่างกายของเราได้รับวิตามินไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวชราไวขึ้นอีกทั้งยังทำให้ผิวอ่อนแอได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งวิตามินที่จำเป็นต่อสุขภาพผิวจะประกอบไปด้วย วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน B3 B5 รวมทั้งคอลลาเจนก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยในการเพิ่มความอิ่มเอิบให้ผิว ดังนั้นการเติมวิตามินให้ผิวจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอค่ะ
เกราะป้องกันผิว คืออะไร? สำคัญอย่างไร?
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) คือปราการผิวที่อยู่บริเวณผิวชั้นนอก ทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาภายในชั้นผิวของเรา นอกจากนี้เกราะป้องกันผิวยังเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำสุขภาพดีอยู่เสมอ หากเกราะป้องกันผิวอ่อนแอจะทำให้เกิดทั้งปัญหาผิวแห้งจนเป็นขุย หรือ ในบางเคสก็สามารถเกิดปัญหาหน้ามันได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากผิวสูญเสียน้ำจนขาดสมดุล ผิวจึงผลิตน้ำมันออกมาแทนเพื่อไม่ให้ผิวแห้งจนแตก หลายคนที่เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรงจึงมีปัญหาหน้ามันและเป็นสิวง่ายได้ค่ะ
ผิวแห้งเป็นขุย ดูแลรักษาอย่างไร?
ตอนนี้หมอเชื่อว่าทุกคนเข้าใจถึงสาเหตุของอาการผิวแห้งเป็นขุยกันมากขึ้นแล้วนะคะ ในประเด็นถัดไปเราจะไปดูถึงวิธีการรักษาผิวแห้งกันบ้างนะคะ จริง ๆ วิธีการรักษาสามารถทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ โดยทุกคนสามารถเริ่มบำรุงผิวได้จากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ค่ะ
- ทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เพื่อป้องกันไม่ให้สารทำความสะอาดทำลายเกราะป้องกันผิว ควรมีค่า pH อยู่ที่ pH 5.5 ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะกับผิวหน้าและผิวกาย
- ทานอาหารที่มีวิตามิน C และ คอลลาเจนเพื่อเสริมสร้างให้ชั้นผิวมีความชุ่มชื้นและอิ่มฟู
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ ควรเลือกสูตรที่ใช้ได้ประจำทุกวันและมีความอ่อนโยน
- บำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว เพื่อลดปัญหาผิวแห้งลอกและเพิ่มความเรียบเนียน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หรือ สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน เพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำโดยไม่จำเป็น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวัน และควรเลือกดื่มเป็นน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องจะดีที่สุดค่ะ
วิธีที่หมอได้กล่าวไปจะช่วยให้สุขภาพผิวของทุกคนดีขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยความมีวินัยในการทำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับใครที่เป็นคนไม่ชอบรอแต่อยากให้ผิวสวยไว ๆ หมอก็มีอีกทางเลือกที่จะทำให้ทุกคนฟื้นฟูผิวได้อย่างเห็นผล ด้วยการทำ IV Drip ผิวสวย และ การเติมฟิลเลอร์ให้ผิว ถ้าอยากรู้ว่าทั้งสองแบบนี้ช่วยรักษาผิวแห้งได้อย่างไร หมอได้อธิบายรายละเอียดไว้ในหัวข้อถัดไปแล้วค่ะ
ลดผิวแห้ง บูสผิวสวยด้วย IV Drip วิตามินผิว
การทำ IV Drip หรือ การเติมวิตามินให้ผิวผ่านเส้นเลือดดำ ถือเป็นบูสผิวที่ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินมากกว่าการกินวิตามินเม็ด อีกทั้งวิตามินที่ให้โดยการทำ IV Drip จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เลยค่ะ วิธีนี้จึงช่วยกอบกู้ผิวแห้งเป็นขุยให้กลับมาฉ่ำวาวดูสุขภาพดีอย่างรวดเร็ว การทำ IV Drip จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถเข้ามาทำได้บ่อย เพราะไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวและยังไม่เจ็บอีกด้วยค่ะ
ซึ่งที่ Amara Clinic เราได้มีบริการสำหรับการเติมวิตามิน C และ การเติมคอลลาเจน ซึ่งทั้งสองสูตรทางคลินิกหมอได้เลือกใช้เป็นวิตามินที่มีความเข้มข้นสูงและมีคุณภาพ อีกทั้งยังไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ไม่ว่าคนไข้จะมีปัญหาผิวแพ้ง่ายก็สามารถเติมวิตามินได้ เพราะทั้งวิตามิน C และ คอลลาเจน ต่างก็เป็นส่วนที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ ดังนั้นร่างกายเราจึงสามารถนำไปใช้ได้ตามปกติค่ะ
เติมวิตามิน IV Drip ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสมีออร่ายิ่งขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำให้จางลง
- ช่วยเพิ่มความหยืดหยุ่นให้ผิว
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียร นุ่มเด้งขึ้น
- ช่วยชะลอปัญหาผิวชรา
- ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้ทำงานได้ดีขึ้น
เติมเต็มผิวให้อิ่มเอิบด้วย “การฉีดฟิลเลอร์”
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเป็นขุย เวลาแต่งหน้าแล้วเห็นเป็นร่องชัดเจน สามารถเลือกแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์แท้ เพื่อสร้างความอิ่มฟูให้กับผิวหน้าแบบเร่งด่วน เนื่องจากในฟิลเลอร์แท้จะมีสาร HA (Hyaluronic Acid) ที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว ที่ปกติในชั้นผิวของเราจะมีสาร HA อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อร่างกายของเรามีปริมาณ HA ที่น้อยลง จึงก่อให้เกิดปัญหาผิวแห้งและริ้วรอยแห่งวัย การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้อย่างตรงจุดและมีความปลอดภัย เพราะเมื่อเราฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วร่างกายจะสามารถนำมาใช้ และขับออกไปเองในช่วงระยะเวลา 1 ปีหลังฉีด จึงทำให้ไม่มีสารตกค้างใด ๆ อยู่ที่ใต้ผิว
ที่ Amara Clinic เราใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรองถูกต้อง และสามารถตรวจสอบข้อมูลของฟิลเลอร์ที่ใช้ได้ค่ะ ซึ่งยี่ห้อที่ทางคุณหมอนำเข้ามาใช้จะเป็นฟิลเลอร์ Restylane (นำเข้าจากสวีเดน) และฟิลเลอร์ Juvederm (นำเข้าจากอเมริกา) จึงสามารถสลายได้ 100% อีกทั้งยังมีความเรียบเนียนสูง และไม่ก่อให้เกิดปัญหาจับตัวเป็นก้อนในอนาคตค่ะ โดยการฉีดฟิลเลอร์กับทาง Amara Clinic เรามีความชำนาญในด้านการฉีดที่แม่นยำ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นไปตามที่คาดหวังทุกเคสค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยลดปัญหาแต่งหน้าไม่ติด หน้าแห้งกร้าน
- ช่วยเติมเต็มให้ผิวหน้าอิ่มฟูอย่างรวดเร็ว
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เช่น ร่องแก้ม รอยย่นที่หน้าผาก
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
ฟิลเลอร์แท้ VS ฟิลเลอร์ปลอม แตกต่างกันอย่างไร?
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์ปลอม สามารถดูได้ตั้งแต่ของตรวจเช็กยี่ห้อที่ใช้กับทางคลินิกเลยค่ะ เพราะหากคลินิกมีการใช้ฟิงเลอร์แท้ จะสามารถตรวจสอบได้ทั้งแหล่งผลิตและข้อมูลยี่ห้อที่ใช้ โดยฟิลเลอร์แท้ทุกตัวจะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถสลายตัวได้ ซึ่งหากปล่อยไว้นานจะก่อตัวเป็นก้อนที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากในฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของซิลิโคน วิธีที่จะนำฟิลเลอร์ปลอมออกมาได้ จะมีแค่การขูดฟิลเลอร์เท่านั้นไม่สามารถฉีดละลายได้ค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ จึงควรตรวจสอบในจุดนี้ให้ละเอียดค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
วันนี้เราก็ได้ความรู้ในเรื่องของการดูแลปัญหาผิวแห้งเป็นขุยไปครบถ้วนแล้วนะคะ ซึ่งหมอเองก็อยากจะย้ำอีกครั้งว่าอาการผิวแห้งหากเป็นแล้วควรให้ความใส่ใจ และเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้จะเป็นดีที่สุดค่ะ เพราะหากเราปล่อยให้ผิวแห้งไปนาน ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มทั้งความเสี่ยงในเรื่องของปัญหาริ้วรอย และอาการระคายเคืองให้เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น หากใครที่สนใจเข้ามาเติมวิตามินให้ผิวหรือฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับให้ผิวอิ่มฟูและเรียบเนียนแบบเร่งด่วน สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวกับคุณหมอเบื้องต้นก่อนได้ค่ะ หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ได้ทาง LINE : @amaraclinic