ฉีดโบลดกราม หน้าเรียวได้ทุกคนจริงไหม? ใครที่ควรฉีด?

ฉีดโบลดกราม

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับหมอตวง (แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง Amara Clinic) กันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับใครที่กำลังมีปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน อยากมีใบหน้าเรียวแบบวีเชฟ หมอมีข้อมูลเรื่องการปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยการฉีดโบลดกรามมาฝากกันค่ะ เพื่อเป็นความรู้ไว้ประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจไปฉีดโบท็อกลดกราม เดี๋ยวเราจะไปเรียนรู้กันตั้งแต่ ฉีดโบลดกราม คืออะไร, ฉีดโบลดกราม หน้าเรียวจริงไหม, วิธีเช็คง่าย ๆ ว่าเราควรฉีดโบลดกรามไหม, การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดกราม, ขั้นตอนฉีดโบลดกราม, การดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดกราม และตอบคำถามที่พบบ่อยในช่วงท้าย ฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล, ฉีดโบลดกรามอยู่ได้นานไหม, ฉีดโบท็อกลดกรามอันตรายไหม และฉีดโบลดกรามที่ไหนดีค่ะ

ฉีดโบลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) เข้าไปยังกล้ามเนื้อกราม ซึ่งสารโบทูลินั่มท็อกซินจะไปเข้าไปหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามแบบชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามอ่อนแรงลงและมีขนาดเล็กลง โดยจะทำให้กรอบหน้าเรียวขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหากรามใหญ่ที่ทำให้หน้าดูบาน หน้าใหญ่ ให้สวยได้รูปแบบวีเชฟมากขึ้น แบบไม่ต้องพึ่งพาการศัลยกรรมค่ะ

ฉีดโบลดกราม

สำหรับการฉีดโบลดกราม หรือฉีดโบท็อกลดกราม เป็นการปรับรูปหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่เรียวสวย หน้าบาน ที่เกิดจากกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม และไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งถึงแม้ว่าการฉีดโบลดกรามจะให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร (6-8 เดือน หรืออาจมากกว่านี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและยี่ห้อโบท็อกซ์) แต่ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องค่ะ โดยในการฉีดโบลดกรามจะใช้ปริมาณไม่เกิน 100 ยูนิต ซึ่งแต่ละคนจะใช้ปริมาณโบท็อกซ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยหมอจะมีการวิเคราะห์รูปหน้า รวมถึงวางแผนการใช้ปริมาณสารโบทูลินั่มท็อกซินที่เหมาะสมแบบเคสต่อเคสค่ะ

โบท็อกซ์ ฉีดจุดไหนได้บ้าง

  • ลดเลือนริ้วรอย รอยย่นหน้าผาก
  • ลดเลือนริ้วรอยหางตา รอยตีนกา
  • ลดเลือนรอยย่นใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา
  • ช่วยลิฟท์กรอบหน้า ให้หน้าเรียววีเชฟ
  • ฉีดโบลดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
  • คลายรอยหยักบริเวณคาง
  • ฉีดโบลดเหงื่อออกรักแร้เยอะ งดเหงื่อออกที่มือ หรือลดบริเวณฝ่าเท้า
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณน่องขา
ฉีดโบลดกราม

ฉีดโบลดกราม หน้าเรียวได้จริงไหม

คนไข้ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ มักจะต้องฉีดโบลดกรามอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปรับรูปหน้าให้เรียวสวย หมอจะต้องพิจารณาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ รูปหน้าไม่ชัด กันก่อนค่ะ ซึ่งการฉีดโบลดกรามอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคนเสมอไปค่ะ โดยหากคนไข้มีปัญหากรามใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อกราม การฉีดโบลดกรามจะช่วยหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามได้ นั่นเป็นเพราะสารโบทูลินั่มท็อกซินที่ใช้โบท็อกลดกรามจะออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่หากเป็นกรณีที่หน้าบาน หน้าใหญ่จากสาเหตุของกระดูกหรือไขมันสะสม จะต้องใช้วิธีอื่น ๆ ในการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยอย่างตรงจุดค่ะ

ฉีดโบลดกราม

ขอบคุณภาพจาก : jkplastic.com

หน้าบาน หน้าใหญ่ จากกล้ามเนื้อ

หน้าบานจากกล้ามเนื้อ เกิดจากกรามใหญ่ ที่มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อกราม Masseater Muscle ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการออกแรงขยับกล้ามเนื้อมาก ๆ บ่อย ๆ เช่น การเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ เหนียว ๆ หรือชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง โดยสามารถใช้วิธีการฉีดโบลดกราม เพื่อไปหยุดการทำงานของของระบบประสาทกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง มีผลให้ช่วยให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดที่เล็กลง

หน้าบาน หน้าใหญ่ จากโครงสร้างกระดูก

ต่อมาเป็นปัญหาหน้าใหญ่ ที่เกิดจากโครงสร้างกระดูกตั้งแต่กำเนิด (กรรมพันธุ์) อย่างในคนไข้ที่มีกระดูกบริเวณขากรรไกรใหญ่ กว้าง จึงทำให้มีช่วงกรามที่ใหญ่ ทำให้รูปหน้าไม่เรียว หน้าเป็นเหลี่ยม สำหรับกรณีที่หน้าบาน หน้าใหญ่ จากโครสร้างกระดูกที่เกิดจากกรรมพันธุ์ หมอแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัดลดขนาดกรามค่ะ

หน้าบาน หน้าใหญ่ จากไขมันสะสม

ไขมันส่วนเกินที่เกิดจากการรับประทานอาหาร และขาดการออกกำลังกาย สามารถสะสมได้ทั่งร่างกาย รวมไปถึงบริเวณใบหน้าค่ะ ส่งผลให้บริเวณแก้ม เหนียงใต้คาง มีไขมันสะสมอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าบาน หน้าใหญ่ และกรอบหน้าไม่ชัด โดยการแก้ไขอย่างตรงจุด ต้องทำการกำจัดไขมันออกไป ด้วยหลากหลายวิธี เช่น วิธีตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีไขมันกระพุ้งแก้มซ่อนอยู่ใต้กล้ามเนื้อส่วนล่างของใบหน้า, ดูดไขมันแก้ม ที่เหมาะกับการกำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าแก้ม หรือดูดไขมันเหนียง กำจัดไขมันใต้ผิวหนังบริเวณใต้คางค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

  • เส้นริ้วบาง ๆ ที่หน้า ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย ทาครีมไม่หาย ทำอย่างไรดี? หาคำตอบได้ที่ ริ้วรอยบนใบหน้า
  • ค่า SPF บนฉลากครีมกันแดด มีความหมายสำคัญ! เลือกให้ดีช่วยป้องกันผิวไหม้และริ้วรอยได้! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ SPF คือ

เช็คง่าย ๆ ว่าเราควรฉีดโบลดกรามไหม

การฉีดโบลดกราม จะเป็นคนที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าเหลี่ยม รูปหน้าไม่เรียวสวย ที่เกิดจากกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง เช่น การเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ เหนียว ๆ บ่อย ๆ ซึ่งต้องใช้การออกแรงขยับกล้ามเนื้อกรามมาก ๆ ในการเคี้ยวอาหาร และนานวันเข้าก็ทำให้กล้าเนื้อกรามแข็งแรงขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ การฉีดโบลดกรามยังเหมาะกับคนที่ไม่อยากเข้ารับการผ่าตัดกราม ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้นนาน ๆ อยากมีรูปหน้าแบบวีเชฟ โดยหมอก็มีวิธีเช็คง่าย ๆ ว่าเราควรฉีดโบลดกรามไหม ซึ่งจะช่วยประเมินตนเองก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกลดกรามค่ะ

ฉีดโบลดกราม

เริ่มด้วยการสบฟันหรือกัดฟัน จากนั้นให้เอามือไปคลำที่บริเวณกรามทั้ง 2 ข้าง หากจับแล้วรู้สึกว่ามีกล้ามเนื้อกรามเด้งสู้ที่มือ มีลักษณะที่นูนขึ้นมา นั่นก็แสดงว่าเรามีปัญหากรามใหญ่ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อกรามนั่นเองค่ะ โดยสามารถฉีดโบลดกราม เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้ แต่หากเป็นกรณีที่กัดฟันแล้ว มีกรามขยับออก รวมถึงมีลักษณะแข็ง ซึ่งเป็นปัญหากรามใหญ่ที่เกิดจากโครงสร้างกระดูก ที่เป็นมาตั้งแต่เกิด (จากพันธุกรรม) แบบนี้จะไม่เหมาะกับการฉีดโบลดกราม แต่จะเหมาะกับการผ่าตัดลดขนาดกรามค่ะ

สำหรับใครที่เช็คแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่า กรามใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ หรือเกิดจากโครงสร้างกระดูก ไม่ชัวร์ว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดโบลดกรามหรือเปล่า สามารถเข้ามาที่ Amara Clinic เพื่อเข้ารับการตรวจวิเคราะห์กับหมอได้เลยค่ะ หรือแอดไลน์เพื่อนัดคิวพบแพทย์ได้ที่ LINE : @AmaraSkin (ปรึกษาแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

  • ใครเป็นสิวที่มาจากการใส่หน้ากากอนามัยทั้งวัน ต้องอ่าน! สาเหตุพร้อมวิธีการดูแลรักษา สิวแพ้แมส
  • ไม่ไหวแล้ว! ผิวแตกลายที่ก้น! จัดการอย่างไรดี? พบคำตอบได้ที่ ก้นแตกลาย

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดกราม

  • หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่ หรือกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตรอยู่ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
  • ก่อนฉีดโบลดกรามประมาณ 2 สัปดาห์ ให้งดการรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริม ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) ยากลุ่มไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามินอี น้ำมันปลา แปะก๊วย หรือโสม
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก่อนฉีดโบท็อกลดกราม 1-2 สัปดาห์

ขั้นตอนฉีดโบลดกราม

  • เช็ดทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดโบลดกราม
  • ทำการทายาชา หรืออาจใช้การฉีดยาชา หรือใช้การประคบเย็น
  • เมื่อผิวหนังรู้สึกชาแล้ว แพทย์จะทำการฉีดโบท็อกลดกรามยังกล้ามเนื้อในตำแหน่งที่กำหนดไว้
  • ใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 นาที
  • หลังฉีดโบลดกราม คนไข้อาจมีอาการตึง ๆ บริเวณที่ฉีด รวมถึงอาจมีรอยแดง และอาการบวมได้เล็กน้อย 
  • หลังฉีดโบลดกรามเสร็จ คนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องพักฟื้น และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตัว และดูแลตัวเองตามคำแนะนำหลังฉีดโบลดกรามอย่างเคร่งครัด

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดกราม

  • หลังฉีดโบลดกราม งดการนอนราบประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  • หลังฉีดโบลดกราม แนะนำให้ขยับกล้ามเนื้อประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อให้ตัวสารโบทูลินั่มท็อกซินกระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากที่สุด
  • หลังฉีดโบท็อกลดกราม งดการนวด ถู กด หรือใช้แรงกดมาก ๆ บริเวณที่ฉีดโบลดกรามประมาณ 8 ชั่วโมง
  • หลังฉีดโบลดกราม สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรแต่งหน้าด้วยความเบามือ ไม่ให้มีการถูหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดโบท็อกลดกราม
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบลดกราม
  • งดการเลเซอร์ผิวหน้า งดการเข้าซาวน่า งดอยู่ในที่มีอากาศร้อน หรือการนั่งอยู่หน้าเตาหมูกระทะร้อน ๆ รวมถึงงดการออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกลดกราม
  • งดการทานหรือเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียว เพื่อลดการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อกรามกลับมาโตขึ้นได้อีก

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล? โดยหลังจากฉีดโบลดกราม สารโบทูลินั่มท็อกซินที่ฉีดเข้าไปจะเริ่มทำงานโดยทันที หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหลังฉีดโบลดกรามประมาณ 2 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน กรอบหน้าเล็กลง ใบหน้าดูเรียวขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน ผลลัพธ์จะเห็นผลได้อย่างเต็มที่มากที่สุดค่ะ

ผลลัพธ์หลังฉีดโบลดกรามจะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน (หรือมากกว่านั้น) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของสารโบทูลินั่มท็อกซินที่เลือกใช้ค่ะ สำหรับการฉีดโบลดกรามยี่ห้อจากอเมริกา จะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าของเกาหลีประมาณ 20% ซึ่งราคาก็จะสูงกว่าตามไปด้วยค่ะ ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามจะอยู่ได้นานไหม ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดกรามด้วยนะคะ

การฉีดโบท็อกลดกรามไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่ทั้งนี้ หมอแนะนำให้ฉีดโบลดกรามกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากเลือกฉีดโบท็อกลดกรามกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น ยิ้มได้ไม่สุด ใบหน้าเบี้ยวไม่เท่ากัน ปากเบี้ยว หน้าตอบ ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือแม้กระทั่งหากเลือกสถานที่ฉีดโบลดกรามไม่ดี อาจเจอกับปัญหายาปลอม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการดื้อยา หรือมีสารตกค้างค่ะ

การฉีดโบลดกราม เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จากแพทย์ที่มีทักษะเกี่ยวกับกายวิภาคบริเวณใบหน้า จึงต้องเลือกฉีดโบท็อกลดกรามกับแพทย์ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์ รวมถึงเลือกฉีดโบลดกรามในสถานที่ที่น่าเชื่อถือ มีการเปิดขวดยาให้คนไข้ดูก่อนฉีด ใช้สารโบทูลินั่มท็อกซินของแท้มีคุณภาพ โดยคนไข้สามารถสแกนที่ข้างกล่อง เพื่อตรวจสอบตัวยาว่าเป็นของจริงหรือปลอมได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตีนกา ริ้วรอยหางตา เกิดจากอะไร? รักษายังไงดี?

อ่านเพิ่มเติม

เคลียร์ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม หน้าเด็กได้อีกครั้ง!

อ่านเพิ่มเติม

อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม หน้าดูแก่จังทำไงดี??

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          ท้ายนี้ หมอหวังว่าหลายคนที่มีแพลนจะฉีดโบลดกราม คงจะได้รับสาระความรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกรามกันอย่างจุใจแล้วนะคะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการตัดสินใจเลือกฉีดโบลดกรามกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในสถานที่ที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ รวมถึงยังช่วยให้สามารถเตรียมตัว และดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง ซึ่งหากใครที่ยังมีข้อสงสัย รวมถึงยังไม่มั่นใจว่าปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน ที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร แล้วจะสามารถฉีดโบลดกรามได้หรือเปล่า สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ Amara Clinic ได้เลยค่ะ หมอตวงยินดีให้คำปรึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ


แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    ใส่ความเห็น