บอกลารอยย่นหน้าผาก กู้หน้าเด็กกลับคืนมา!

รอยย่นหน้าผาก

หน้าผากเป็นส่วนหนึ่งบนใบหน้าที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาที่มีการแสดงสีหน้าขมวดคิ้ว ยิ่งมีรอยย่นหน้าผากเกิดขึ้นมาเยอะ ใบหน้ายิ่งดูมีอายุมากขึ้น หรือบางคนอายุยังไม่ถึง 30 ปี แต่ดันมีปัญหาเรื่องรอยย่นหน้าผากซะแล้ว หน้าผากที่คนส่วนใหญ่มองว่าสวยและอยากจะมีกัน มักจะเป็นหน้าผากที่เรียบเนียน เต่งตึง และนูนสวยได้รูป เพราะบางคนก็มีความเชื่อว่าหน้าผากที่นูนสวยไร้ริ้วรอย จะช่วยให้โหงวเฮ้งดี มีราศี และเงินทองไหลมาเทมานั่นเองค่ะ สำหรับผู้อ่านท่านใดที่อยากจะจัดการกับปัญหาของริ้วรอยหน้าผาก หรือรอยย่นหน้าผากเหล่านี้ ลองมาอ่านทำความเข้าใจและทำความรู้จักกับวิธีลดรอยย่นหน้าผากในบทความนี้กัน – หมอตวง Amara Clinic (แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง)

รอยย่นหน้าผาก

รอยย่นหน้าผากคืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด?

ใคร ๆ ก็สามารถพบกับปัญหารอยย่นหน้าผากได้ค่ะ เพราะในการดำเนินชีวิตประจำวันของคนเรา มักพบเจอกับปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยย่นหน้าผากและริ้วรอยบนใบหน้ามากมาย ทั้งปัจจัยภายในร่างกายที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ยาก ปัจจัยภายนอกหรือมลภาวะต่าง ๆ และพฤติกรรมการแสดงออกของตัวเราด้วย เอาล่ะค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีปัจจัยใดบ้าง ที่สามารถทำให้เกิดรอยย่นหน้าผากและริ้วรอยต่าง ๆ ขึ้นมาได้

รอยย่นหน้าผาก

ปัจจัยภายในร่างกาย

อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วนะคะ ว่าคนที่มีอายุมากหรือคนแก่ มักจะมีปัญหาริ้วรอยตื้นลึกบนใบหน้า และรอยย่นหน้าผากที่มากกว่าคนอายุน้อยกว่าหรือวัยหนุ่มสาว ตรงนี้เป็นเพราะอัตราการผลิตคอลลาเจนในผิวของเราน้อยลงนั่นเอง หลังจากที่อายุของเราเลย 25 ปีมาแล้ว ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินออกมาในปริมาณที่ลดลงไปทุกปี ๆ ส่งผลให้ผิวขาดความเต่งตึงและความยืดหยุ่นไป ริ้วรอยที่ไม่เคยมีก็จะเริ่มปรากฎ ผิวจะค่อย ๆ คล้อยตัวมลงตามแนวโน้มถ่วงของโลก จึงค่อย ๆ เกิดเป็นรอยย่นเล็ก ๆ ขึ้น แรก ๆ อาจจะไม่ค่อยสังเกตเห็นกันหรอกค่ะ เลยปล่อยไปแบบไม่รู้ตัว พอรู้ตัวอีกทีเราก็มีรอยย่นหน้าผากเยอะซะแล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะเซลล์ผิวของร่างกายมันเสื่อมสภาพลงตามการเวลาอีกด้วย

รอยย่นหน้าผาก

นอกจากแสงแดดแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาต่อผิวพรรณของเราก็คือควันบุหรี่ ควันไอเสีย ฝุ่นละอองต่าง ๆ เพราะในสิ่งเหล่านี้มีอนุมูลอิสระและสารเคมีที่ไม่ดีต่อเซลล์ผิวอยู่มากมาย เราอาจจะได้รับโดยที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ เมื่อเราได้รับมันเข้ามาในร่างกายแล้ว สิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ ทำลายผิวให้เสื่อมโทรมลง ดังนั้น หมอจึงแนะนำให้ทุกคนทาครีมป้องกันผิว และหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอปัจจัยภายนอกเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

รอยย่นหน้าผากเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่ผิวขาดความเต่งตึงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต คนที่แสดงสีหน้าและอารมณ์บ่อย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าขยับตามไปด้วย แน่นอนว่าผิวในบริเวณนั้นต้องถูกขยับตาม เมื่อมีการขยับบ่อย ๆ ผิวที่เคยกระชับเต่งตึงมีความยืดหยุ่นดี ก็จะค่อย ๆ ขาดความกระชับตรงนี้ไป สำหรับรอยย่นหน้าผากจะเกิดจากพฤติกรรมการขมวดคิ้วหรือยกคิ้วขึ้น และอีกหนึ่งปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า อันเกิดจากพฤติกรรมการแสดงสีหน้าที่เกิดขึ้นได้บ่อยก็คือรอยย่นหางตาหรือตีนกานั่นเอง

รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก

อยากลดรอยย่นหน้าผาก ต้องทำอย่างไร?

ถ้าอยากลดรอยย่นหน้าผากเราสามารถจัดการได้หลายวิธีเลย มีทั้งการฉีดโบท็oกซ์เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ, การฉีดสารเติมเต็ม เพื่อทำให้รอยย่นหน้าผากจางหายไป และทำให้หน้าผากกระชับเต่งตึงขึ้น และการใช้เครื่องมือที่สามารถส่งพลังความร้อนลงไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว พร้อมทั้งยกกระชับจัดการริ้วรอยให้หายไปได้ เรามาดูกันว่าแต่ละวิธีคืออะไร และมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง!?

การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก

โบท็oกซ์ หรือ Botulinum toxin type A หรือเรียกแบบกระชับ ๆ ว่าการฉีดโบ หมอเชื่อว่าวิธีนี้ใคร ๆ ก็รู้จักค่ะ เพราะเป็นหัตถการที่ใคร ๆ ก็ทำกัน หลังจากที่ฉีดโบท็oกซ์แล้ว มันจะเข้าไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นหยุดการทำงานชั่วคราว อาจจะ 3-4 เดือน หรือนานไปจนถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็oกซ์ที่เลือกใช้ เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากไม่ทำงาน ไม่หดเกร็ง ไม่ขยับ รอยย่นหน้าผากก็จะหายไปด้วย หากฉีดเยอะเกินไป หรือในช่วงแรกที่ยังไม่เข้าที่ จะทำให้หน้าตึงหรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ถ้าอยากทำให้รอยย่นหน้าผากจางลงไป จะต้องเติมเต็มบริเวณนั้นให้เต่งตึงขึ้นค่ะ การฉีดสารเติมเต็มสามารถช่วยได้ ชนิดแรกที่เราจะมาแนะนำกันก็คือการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) นั่นเอง ฟิลเลอร์เป็นสารที่ถูกสร้างมาเลียนแบบ Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นสารธรรมชาติในร่างกาย โดยมีหน้าที่ในการสร้างความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย (ถ้าร่างกายขาดสารนี้ไป จะทำให้ผิวเหี่ยวย่น แห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น และมีริ้วรอยเกิดขึ้น)

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากใช้เวลาน้อย ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ เลย ตัวฟิลเลอร์จะมียาชามาด้วยอยู่แล้ว แพทย์สามารถทำความสะอาดผิวและฉีดฟิลเลอร์ไปแก้ไขปัญหารอยย่นหน้าผากได้ทันที แต่หมอแนะนำให้เลือกแพทย์ที่มีฝีมือ น่าเชื่อถือ คลินิกที่ได้มาตรฐาน และมีการจำหน่ายฟิลเลอร์ในราคาที่เหมาะสม เพราะฟิลเลอร์ปลอมหรือสารเหลวได้มีอยู่เยอะมาก มักจะพบในคลินิกเสริมความงามที่มีราคาถูก (หลักพัน) ทั้งนี้ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ รุ่นของฟิลเลอร์ และฝีมือของแพทย์ด้วย ยังไงก็อย่าลืมหาข้อมูลและดูรีวิวเยอะ ๆ ก่อนตัดสินใจทำนะคะ

การเติมไขมันหน้าผาก

ไขมันเป็นหนึ่งในสารเติมเต็มเช่นเดียวกันกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การเติมไขมันหน้าผาก (Forehead Fat Grafting) เป็นการใช้เซลล์ไขมันของตัวคนไข้เอง เติมเต็มไปยังบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากมีความเต่งตึงขึ้น ทำให้รอยย่นหน้าผากจางหายไป และช่วยปรับสภาพผิวบริเวณหน้าผากให้โกลว์ใสดูสุขภาพดี สำหรับการเติมไขมันหน้าผากนั้น มีความแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหลายอย่าง

เช่น

  • การเติมไขมันหน้าผากจะต้องมีการเปิดแผลผ่าตัดขนาดเล็กเพื่อดูดไขมันออกไป
  • อาจมีความรู้สึกเจ็บได้ระหว่างผ่าตัด แต่ส่วนใหญ่แล้วแทบจะไม่รู้สึกใด ๆ เพราะเป็นการผ่าตัดเล็ก
  • ต้องคอยลุ้นว่าเซลล์ไขมันจะติดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งปัจจัยนี้จะขึ้นอยู่กับวิธีการเติมไขมันของแต่ละคน
  • ราคาถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการลดรอยย่นหน้าผากและทำให้หน้าผากนูนสวย จะต้องใช้สารเติมเต็มหลายซีซี
รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก

สำหรับผู้ที่สนใจในการเติมไขมันหน้าผากหรือเติมไขมันหน้าเด็กที่ Amara Clinic ทางคลินิกมี KOL Trainer แพทย์ผู้สอนดูดไขมัน-เติมไขมันโดยตรง (คุณหมอไอซ์และคุณหมอมะปราง) ซึ่งทุกการผ่าตัดของคลินิก จะทำภายใต้ห้องผ่าตัดคลีนรูมที่ได้มาตรฐาน มีทั้งการผ่าตัดแบบยาชาและการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ มีห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด รีวิวเยอะมาก และมี After Care คอยดูแลหลังทำครบครัน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้เลยนะคะ

รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก

ยกกระชับหน้าผากด้วย Ultraformer III

Ultraformer III มีชื่อเรียกหลายแบบเลย บางคนอาจจะรู้จักในชื่อ Hifu แบบใหม่, Hifu Macrofocus, Macro Hifu หรือ Hifu Ultraformer III เป็นต้น ซึ่งเครื่อง Ultraformer III นี้จะใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง หรือใหญ่กว่าไฮฟู่ทั่วไป (Micro & Macro Focused Ultrasound : MMFU) สามารถลงลึกไปยังชั้นผิวได้มากกว่า มีหัวอุปกรณ์หลายแบบ สามารถทำได้ทั้งใบหน้าและลำตัว และมีประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดเลือนรอยย่นหน้าผากได้ดีกว่าไฮฟู่ทั่วไปถึง 5 เท่า จึงทำให้ช่วงหลังมานี้ Ultraformer III เป็นเครื่องยกกระชับลดเลือนริ้วรอยที่ได้รับความนิยมมาก

  • ช่วยยกกระชับชั้นผิวได้ทุกชั้นและลงลึกได้ถึงชั้นกล้ามเนื้อใบหน้า (SMAS)
  • ช่วยเพิ่มอัตราการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้ พร้อม ๆ กับการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  • เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องลางาน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย
  • หลังทำเสร็จจะมีรอยแดงและอาการช้ำเกิดขึ้นได้เล็กน้อย หายไปได้ภายใน 2-4 สัปดาห์
  • เห็นผลชัด เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และผลลัพธ์อยู่นานตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี
  • เครื่องมือได้มาตรฐาน พลังงานเสถียร ไม่ทำให้เกิดรอยไหม้ ไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัด
รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก

วิธีป้องกันไม่ให้มีรอยย่นหน้าผาก

วิธีป้องกันไม่ให้มีรอยย่นหน้าผากง่าย ๆ หรือการป้องกันไม่ให้ผิวเสื่อมโทรมก่อนถึงเวลาอันควร (หน้าแก่ก่อนวัย) สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่มีอนุมูลอิสระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด, ควันไอเสีย หรือควันบุหรี่ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองค่ะ เช่น ไม่แสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป, ทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย, ไม่สูบบุหรี่, ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่มาก ๆ , ทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ, ทาครีมกันแดดทุกวัน, มาส์กหน้าเองบ่อย ๆ  และรวมไปถึงการทำทรีตเมนต์ที่คลินิกเสริมความงามด้วยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

  • อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม หน้าดูแก่จังทำไงดี??

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตีนกา ริ้วรอยหางตา เกิดจากอะไร? รักษายังไงดี?

อ่านเพิ่มเติม

เคลียร์ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม หน้าเด็กได้อีกครั้ง!

อ่านเพิ่มเติม

เลเซอร์ขนน้องชาย ดีไหม? ผู้ชายทำได้จริงหรือเปล่า!?

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          รอยย่นหน้าผากมักจะเกิดขึ้นกับผู้มีอายุมากแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าใครที่อายุยังไม่เยอะแล้วมีรอยย่นหน้าผากขึ้นมาละก็ อาจเป็นสัญญาณว่าผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นและการฟื้นบำรุงอย่างเต็มที่ก็เป็นได้ ใครที่อยากลดเลือนรอยย่นหน้าผากหรือริ้วรอยบ่นใบหน้า แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกวิธีไหนดี อยากรู้ว่าวิธีไหนเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ผ่านทาง LINE : @amaraskin ได้เลยค่ะ หรือจะเข้ามาปรึกษาหมอที่ Amara Clinic ก่อนก็ได้นะคะ หมอยินดีให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวให้ค่ะ


แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    ใส่ความเห็น