ช่วงนี้เรียกได้ว่าสถานที่เที่ยวยอดฮิตคงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากทะเลและหาดทรายสวย ๆ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากการไปเที่ยวทะเลก็คงหนีไม่พ้น “ปัญหาหน้าไหม้แดดและผิวหมองคล้ำ” ที่ไม่เพียงแค่ทำให้ผิวแลดูไม่สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังทำให้สุขภาพของผิวหนังเสื่อมโทรมก่อนวัยอีกด้วยค่ะ
วันนี้ หมอตวง จึงอยากพาทุกคนที่กำลังมีปัญหาผิวไหม้ไปเจาะลึกสาเหตุ พร้อมแนวทางการฟื้นฟูและรักษาอาการผิวไหม้ฉบับเร่งด่วน โดยการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่าง Pico Laser และ Lumecca เข้ามาช่วยในการรักษา แต่ก่อนที่เราจะไปดูถึงคุณสมบัติของทั้งสองอย่างนี้ หมออยากแนะนำให้ทุกคนทำความเข้าใจกับสาเหตุและอาการหน้าไหม้แดดให้มากขึ้นจากข้อมูลด้านก่อนค่ะ เพื่อที่จะได้เลือกการรักษาอย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น – หมอตวง Amara Clinic
รังสียูวี (UV) – สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดปัญหาหน้าไหม้แดดมาจากการสัมผัสกับ “รังสียูวี” โดยตรงเป็นเวลานาน โดยปกติร่างกายของคนเราสามารถปกป้องผิวหนังของตนเองจากรังสียูวีได้เอง โดยร่างกายจะผลิตเมลานินออกมาเพื่อช่วงป้องกันไม่ให้ผิวหนังไหม้แดด แต่ผลข้างเคียงของกระบวนการนี้คือส่งผลให้สีผิวเข้มขึ้น แม้ว่าผิวจะไม่ถึงขั้นไหม้เสียแต่ก็ทิ้งความหมองคล้ำและปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งในบางเคสอาจมีปัญหาปากดำคล้ำด้วยเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านการผลิตเมลานินหรือคนผิวเผือก จะมีโอกาศเกิดปัญหาผิวหน้าไหม้ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
UVA / UVB ต่างกันอย่างไร?
ทั้งสองรังสียูวีนี้ถูกแยกย่อยออกมาจากแสง UV หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งเป็นต้นกำเนิดคลื่นรัศมีของแสงแดดเข้มข้นสามารถทำร้ายผิวหนังคนได้และมีความอันตรายต่อสุขภาพในหลากหลายด้าน
- UVA เป็นคลื่นแสงที่สามารถพบได้ในตอนกลางวันช่วงเวลาที่มีแดดจ้า มีความเข้มข้นสูงทำให้เข้าทำลายผิวชั้นในของมนุษย์ได้ นอกจากนี้ รังสี UVA ก็ยังสามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาในอาคารได้ เป็นต้นต่อของ “ปัญหาความชราของผิวหนัง” เช่น ฝ้า ริ้วรอยบนใบหน้า จุดด่างดำ
- UVB เป็นคลื่นแสงที่สามารถเข้าถึงผิวหนังของมนุษย์ได้ต่ำกว่ารังสี UVA แต่สามารถปรับสภาพผิวชั้นนอกให้เกิด “อาการผิวไหม้แดด” ได้ หากปล่อยให้ผิวรับรังสี UVB ในระยะยาวจะทำให้เกิดการกระตุ้น DNA ใต้ผิวหนังเปลี่ยนสภาพเซลล์เป็นมะเร็งผิวหนัง
ไม่ทาครีมกันแดด – อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาหน้าไหม้แดด คือ การไม่ทากันแดดหรือทากันแดดไม่ถูกวิธี เนื่องจากในกันแดดมีสารที่ช่วยป้องกัน UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดสีเมลานินจึงไม่ถูกกระตุ้นให้มีสีเข้มขึ้นเนื่องจากเรามีกันแดดในการช่วยปกป้องผิวแล้ว ดังนั้นใครที่ไม่ชอบทากันแดดหมอขอแนะนำให้ฝึกทาทุกวันจนเป็นความเคยชินจะดีที่สุดค่ะ
แสงแดด อันตรายที่ไม่ควรละเลย!!
รู้ไหมคะว่าแสงแดดคือตัวการของปัญหาผิวทุกด้านเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ความเหี่ยวยน ริ้วรอย จุดด่างดำ สิว รูขุมขนกว้าง และความหมองคล้ำ นอกจากนี้แสงแดดยังเป็นตัวทำลาย “คอลลาเจนในชั้นผิว” ของเราโดยตรง เนื่องจากสารอนุมูลอิสระไปทำลายเส้นใยคอลาเจน จึงทำให้ผิวเสื่อมสภาพได้ง่ายและเร็วขึ้น ใครที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำควรทากันแดดและแต่งตัวให้มิดชิด เพื่อป้องกันการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
นอกจากนี้เรายังสามารถเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ด้วย การเติม “Aura Collagen” จาก Amara Clinic ที่พร้อมช่วยกู้ผิวพัง ผิวโทรม ให้สวยเปล่งปลั่งกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติด้วยคอลลาเจนที่มีคุณภาพ และให้บริการโดยแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญสูง
อาการหน้าไหม้แดด เป็นอย่างไร?
ผิวหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดด – สำหรับคนที่เริ่มมีอาการผิวหน้าไหม้แดดในระยะเริ่มต้นจะสังเกตได้ง่าย ๆ มากเลยค่ะ โดยบริเวณผิวจะเริ่มมีความแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หากมีการหลีกเลี่ยงแสงแดดจะทำให้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเอง ด้วยการลอกเซลล์ผิวหนังที่ตายออกมาทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอในอนาคตได้ค่ะ
มีอาการแสบ คัน ที่ผิวหน้า – หากผิวหน้าของคุณเริ่มมีอาการแดดแล้ว แต่ยังไม่การหลีกเลี่ยงแสงแดดจะส่งผลให้มีอาการแสบ ร้อน และคันบริเวณผิวหน้าที่เกิดการไหม้ นอกจากนี้จากผิวที่เคยแดงจะเริ่มกลายเป็นสีดำคล้ำมากยิ่งขึ้น
เกิดตุ่มน้ำ ปวดแสบปวดร้อนที่ผิว – ในคนที่มีอาการผิวหน้าไหม้แดดอย่างรุนแรง จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนทั่วผิวและมีตุ่มน้ำขึ้นตามผิวหนัง หากคนที่มีอาการผิวไหม้ในลักษณะนี้หมอขอแนะนำให้เข้าพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
หน้าไหม้แดด ทํายังไงดี
หลังจากที่เราได้ศึกษาถึงสาเหตุและอาการของปัญหาหน้าไหม้แดดแล้ว หลายคนที่กำลังมีอาการผิวหนังที่ตรงกับที่กล่าวไปด้านบน หากมีอาการที่ไม่รุนแรงมากนักหมอแนะนำให้ฟื้นฟูผิวด้วยเทคนิคที่ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
หลีกเลี่ยงแสงแดด
การไม่สัมผัสแสงแดดถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งหากคุณกำลังมีปัญหาผิวหน้าไหม้ โดยแสงแดดที่ส่งผลเสียต่อผิวคือแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. ในเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีความอันตรายต่อผิวหนังมากที่สุด หากสัมผัสเป็นประจำไม่เพียงแค่ทำให้ผิวไหม้ แสบร้อน แต่อาจส่งผลร้ายในการเกิดความชราของผิวและโรคมะเร็งผิวหนังได้ง่ายขึ้นค่ะ
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
นอกจากปัญหาผิวหน้าไหม้แดดจะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้ว แต่แสงแดดยังดึงน้ำภายในผิวออกมาเป็นจำนวนมากอีกด้วยค่ะ จะสังเกตได้ว่าผิวที่ไหม้จะมีความแห้งกร้านอย่างมาก ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทำให้ผิวมีความเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
เจลว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera เป็นพืชที่มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวหนังที่เกิดจากความร้อน ดังนั้นการบำรุงผิวด้วยว่านหางจระเข้จะทำให้ลดอาการแสบ คัน เนื่องจากผิวหน้าไหม้แดดได้ดีค่ะ แต่หมอขอแนะนำว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิกจะดียิ่งขึ้นค่ะ
พบแพทย์ผิวหนัง
สำหรับผู้ที่เกิดอาการผิวไหม้รุนแรงหมอแนะนำให้เเข้าพบแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุดค่ะ เพื่อให้หมอได้ประเมินอาการและฟื้นฟูผิวหนังอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ใครที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอและหมองคล้ำจนเกิดความไม่มั่นใจในการแต่งตัว หมอขอแนะนำให้รับการฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยี Pico Laser และ Lumecca ที่สามารถผลัดเซลล์ผิวและเพิ่มความสดใสให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผิวไหม้แดด อาบน้ำอุ่นได้ไหม?
ใครที่ติดการอาบน้ำอุ่นและมีอาการผิวไหม้แดด หมอขอเตือนเลยว่า “ห้ามอาบน้ำอุ่นเด็ดขาด!!” เพราะในผิวของเรามีอุณหภูมิสะสมใต้ผิวหนังที่สูงเนื่องจากโดนแสงแดดเป็นเวลานาน การอาบน้ำอุ่นจึงทำให้เกิดอาการแสบร้อนและระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกอาบน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อระงับอาการอักเสบจะดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งประคบลงบนผิวไหม้แดด เพราะความเย็นของน้ำแข็งจะยิ่งทำลายผิวให้เสียหายมากยิ่งขึ้นค่ะ ดังนั้นใครที่คิดจะเอาน้ำแข็งมาประคบถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างมากค่ะ
Carbon Pico Rejuvenation ผลัดเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ
Carbon Pico Rejuvenation นวัตกรรมด้านการทำเลเซอร์ ที่พัฒนามาเพื่อผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสและฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการนำมาร์กเจลคาร์บอนมาใช้ร่วมกับเครื่อง Pico Laser โดยแพทย์จะทามาร์กเจลคาร์บอนทั่วบริเวณใบหน้าของคนไข้ เพื่อช่วยในการกำจัดความมันและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาผิว หลังจากนั้นจะทำการยิง Pico Laser ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวกระจ่างใส ไม่ว่าจะผิวหมอลคล่ำจากปัจจัยไหนก็สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวให้ยกกระชับขึ้นได้อีกด้วยค่ะ จะสังเกตได้ว่าผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าไหม้แดดมักมีความแห้งเหี่ยวของผิวด้วย ดังนั้นการทำ Carbon Pico Rejuvenation จึงให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าความกระจ่างใส แต่ยังมอบผิวหน้าที่อิ่มฟู สดใส ยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
ข้อดี Carbon Pico Rejuvenation
- ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
- รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
- ผิวอิ่มฟู แลดูสุขภาพยิ่งขึ้น
- ริ้วรอยแห่งวัยลดลง
- กำจัดความมันส่วนเกิน
- ลดโอกาสในการเกิดสิว
- ไม่ก่อให้เกิดอาการผิวไหม้หลังทำ
Lumecca นวัตกรรมเพื่อผิวกระจ่างใส
Lumecca นวัตกรรม IPL ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวสูงกว่า IPL ทั่วไปมากถึง 3 เท่า และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก U.S. FDA โดยคุณสมบัติของ Lumecca จะช่วยในการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสและทำให้สีผิวสม่ำเสมอยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบทำความเย็นที่คอยปกป้องผิวในระหว่างที่ทำการรักษา ช่วยให้คนไข้รู้สึกสบายผิวยิ่งขึ้น โดยการทำงานของตัวเครื่องจะมีการส่งความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับปัญหาของผิวเคสนั้น ๆ ลงไป เพื่อให้เม็ดสีเมลานินดูดซับแสง หลังจากนั้นเม็ดสีที่มีความเข้มจะค่อย ๆ ถูกทำลายให้จางลงไป เมื่อทำเสร็จบริเวณผิวที่ทำอาจมีสีเข้มขึ้นและตกสะเก็ดได้ค่ะ โดยผิวหน้าจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนหลังทำไป 2 สัปดาห์ อีกทั้งการรักษาผิวหน้าไหม้แดดด้วยวิธีนี้ยังใช้เวลาแค่ 15 – 20 นาทีเท่านั้น
ข้อดี Lumecca
- ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
- สีผิวสม่ำเสมอกันทั่วหน้า
- ลดจุดด่างดำได้อย่างเห็นผล
- ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
- ริ้วรอยแห่งวัยลดลง
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- สามารถใช้ได้หลายตำแหน่งในร่างกาย
- ไม่ก่อให้เกิดอาการผิวไหม้หลังทำ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
เชื่อว่าหลายท่านที่มีปัญหาผิวหน้าไหม้แดด น่าจะได้แนวทางการฟื้นฟูผิวดี ๆ กันไปบ้างแล้วนะคะ การที่เราได้มีผิวที่เรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอกันทั่วทั้งตัว ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ต่างต้องการ ดังนั้นหากใครที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลผิวให้สวยอย่างสุขภาพดี สามารถเข้ามาพูดคุยกับหมอตวงที่ Amara Clinic ได้เสมอเลยนะคะ หมอยินดีที่จะให้คำแนะนำและให้การรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของทุกท่านอย่างดีที่สุดค่ะ หรือท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ได้ทาง LINE : @amaraskin ได้เลยค่ะ