เคยขอบตาดำ คล้ำ จนเหมือนป่วยตลอดเวลากันมั้ยคะ? ไปไหนก็โดนทักว่าโทรม เหมือนนอนไม่พอตลอดเวลา ทั้งที่ก็นอนครบตามที่ร่างกายต้องการทุกวัน นั่นเพราะการเกิดขอบตาดำ ไม่ได้เป็นเพราะจากการนอนอย่างเดียวค่ะ แต่ขอบตาดำสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุมาก ๆ และบางอย่างเราก็คาดไม่ถึงอีกด้วย! วันนี้ หมอตวง Amara Clinic แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง จะพามาดูว่าขอบตาดำคล้ำชวนรำคาญใจนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ มีวิธีแก้ขอบตาดำยังไงได้บ้าง และสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ยังไม่เป็น สามารถป้องกันขอบตาดำคล้ำได้ไหม? มาดูกันเลยค่ะ ❤
ขอบตาดำ เป็นอาการอย่างหนึ่งที่จะปรากฏขึ้นบริเวณใต้ดวงตา โดยจะมีสีออกม่วง น้ำเงินเข้ม ดำ หรือน้ำตาล แล้วแต่พื้นสีผิวของแต่ละคนค่ะ ซึ่งเจ้ารอยคล้ำนี้จะทำให้ใต้ตาดำคล้ำ ดูเข้มกว่าผิวบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า คนที่มีขอบตาดำจะดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา หรืออาจจะทำให้หน้าแก่กว่าวัยไปเลยก็ได้เช่นกันค่ะ ทว่ารอยคล้ำใต้ตาหรือขอบตาดำนี้ไม่ได้อันตรายอะไร เพียงแต่จะทำให้เสียบุคลิกเท่านั้นเองค่ะ
ใครบ้างที่มีโอกาสขอบตาดำกว่าคนปกติ?
คนที่มีโอกาสเกิดขอบตาดำมากกว่าคนปกติ คือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ครอบครัวมีประวัติขอบตาดำ และผู้ที่มีผิวคล้ำอยู่แล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม รอยคล้ำใต้ตาก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศและทุกวัย ไม่ว่าจะมีสภาพผิวต่างกันขนาดไหน จะหน้ามัน ผิวผสม หน้าแห้งหน้าลอก ก็สามารถเป็นรอยขอบตาดำได้เหมือนกัน แต่แค่จะมีระดับความคล้ำที่ต่างกันเท่านั้นเองค่ะ
เกร็ดความรู้ : เด็กทารกหรือเด็กเล็กมีขอบตาดำ อย่าตื่นตูม! เป็นเรื่องปกติ
บางครั้ง เด็กเล็กก็สามารถมีใต้ตาดำคล้ำกว่าปกติได้ค่ะ เพราะผิวของเด็กจะมีความบอบบาง ทำให้สามารถมองเห็นเส้นเลือดได้ง่าย จนมองเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา แต่ทั้งนี้ ขอบตาดำในเด็กอาจเกิดจากการเป็นภูมิแพ้ ชอบขยี้ตา อ่อนเพลีย หรือเป็นสัญญาณของอาการป่วยได้เช่นกัน หากกังวลหรือสังเกตได้ว่าน้องมีอาการป่วยร่วมด้วย สามารถเข้าไปปรึกษาหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับเด็กได้ค่ะ
สาเหตุของขอบตาดำ เกิดจากอะไร?
อย่างที่หมอได้เกริ่นไปว่า สาเหตุของขอบตาดำมีหลายอย่างมาก ๆ ที่ไม่ใช่แค่การนอนอย่างเดียว ขอบตาดำสามารถบอกสภาวะของร่างกายหรืออาการป่วยได้ ซึ่งโรคเหล่านั้นอาจเป็นสาเหตุของของตาดำอีกที นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราด้วย ดังนั้น ก่อนจะไปดูวิธีแก้ขอบตาดำ ก็ต้องมารู้สาเหตุของขอบตาดำกันก่อนค่ะ
-
การส่งต่อยีนทางพันธุกรรม
: หากคนในครอบครัวมีขอบตาดำ เราก็มีโอกาสขอบตาดำได้ค่ะ
-
เป็นโรคผิวหนัง
: โรคผิวหนังอักเสบหรือกลากเกลื้อน จะทำให้เส้นเลือดใต้ฝอยผิวหนังขยายตัว ทำให้ผิวดูคล้ำออกม่วงหรือดำค่ะ
-
ขยี้ตารุนแรงเกินไป
: การขยี้ตาหรือสัมผัสรุนแรงบริเวณตามากไป อาจทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ตาแตก ทำให้ดูคล้ำได้
-
เป็นภูมิแพ้
: ร่างกายจะมีการปล่อยฮีสตามีนเมื่อมีการแพ้ ทำให้ตาแดง บวม และคัน ถ้าเผลอไปเกาอาจจะทำให้ผิวอักเสบและสร้างเม็ดสีมากขึ้นจนใต้ตาดำ คล้ำกว่าเดิมได้ค่ะ
-
นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
: การนอนหลับไม่เพียงพอ สามารถทำให้ใต้ตาบวมและคล้ำขึ้นได้ เพราะจะมีการสะสมของเหลวใต้ดวงตา ทำให้ใต้ตาบวมจนมีเงาใต้ตาเหมือนขอบตาดำได้เช่นกัน
-
อายุมากขึ้น
: ผิวของเราจะหย่อนคล้อยและบางลงเมื่ออายุมากขึ้น เพราะไขมันและคอลลาเจนน้อยลง หลอดเลือดฝอยใต้ผิวจึงเห็นได้ชัด นอกจากนี้ เบ้าตาก็ยังกลวงขึ้น ทำให้ดูเหนื่อยและอ่อนล้าตลอดเวลาค่ะ
-
ร่างกายขาดน้ำ
: หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ผิวของเราก็จะไม่ชุ่มชื้น ทำให้หน้าหมองคล้ำ ไม่เปล่งปลั่ง เช่นเดียวกันกับใต้ตาค่ะ
-
ไม่ยอมทากันแดด
: เม็ดสีจะถูกสร้างขึ้นมากกว่าปกติเมื่อถูกกระตุ้นโดยแสงแดด ซึ่งมันอาจจะไปสะสมอยู่รอบดวงตาจนดูเหมือนขอบตาดำได้
-
สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
: การสูบบุหรี่ทำให้ผิวเราแก่เร็วขึ้น การดื่มแอลกอฮอล์ก็จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ทำให้มีโอกาสในการเกิดขอบตาดำสูงกว่าปกติค่ะ
-
การใช้ยาบางชนิด
: ยารักษาโรคที่มีผลต่อดวงตา เช่น ยาหยอดตารักษาต้อหิน อาจจะมีผลให้ใต้ตาดำคล้ำ ขอบตาดำอยู่ในระยะหนึ่ง และจะหายไปได้เอง แต่ถ้าเป็นภาวรอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมต่อไปค่ะ
-
เป็นโรคโลหิตจาง
: เมื่อร่างกายขาดสารอาหาร โลหิตจาง จะทำให้ตัวซีด ดวงตาเหลือง และใต้ตาดำคล้ำได้ด้วย
ใช้งานดวงตาหนักเกินไป
: พฤติกรรมประจำวันต่าง ๆ เช่น การจ้องหน้าจอมือถือ คอมพิวเตอร์ทั้งวัน หรือใช้ดวงตาในการทำงานมากเกินไปโดยไม่พัก ทำให้ดวงตาตึงเครียด หลอดเลือดจะขยาย ทำให้เกิดรอยคล้ำได้มากขึ้น
เกร็ดความรู้ : ขอบตาดำ vs ถุงใต้ตา ไม่เหมือนกันนะ!
ขอบตาดำมีอาการคือ บริเวณใต้ตามีความคล้ำมากกว่าปกติเพราะเม็ดสีเกิดขึ้นมาก หลอดเลือดขยายตัว หรือผิวบางจนเห็นหลอดเลือด แต่ถุงใต้ตานั้น มีอาการบวมของบริเวณใต้ตา มีไขมันหรือของเหลวมาสะสม หรือมีความหย่อนคล้อยของผิว ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับเม็ดสีหรือหลอดเลือดแต่อย่างใด เป็นความแตกต่างระหว่างขอบตาดำที่เราจะเห็นแค่ความคล้ำ แต่ถุงใต้ตาจะเห็นได้ชัดว่ามันบวมและหย่อนออกมาจากผิวส่วนอื่น ๆ ค่ะ
สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ถุงใต้ตาได้ที่ 4 สิ่งควรรู้ก่อนผ่าตัดถุงใต้ตา
การป้องกันอาการ ขอบตาดำ ลดความเสี่ยงตาแพนด้า
เมื่อทราบสาเหตุที่แน่ชัดกันแล้วว่า ขอบตาดำ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เราก็จะสามารถหาวิธีป้องกันได้อย่างทันท่วงที เพื่อที่จะลดโอกาสการเกิดขอบตาดำ ใต้ตาดำคล้ำตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ต้องมาหาวิธีแก้ทีหลัง โดยการป้องกันเบื้องต้น สามารถทำได้ดังนี้ค่ะ
-
ทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ
ขอบตาดำสามารถเกิดขึ้นเมื่อเราโดนแสงแดดมากเกินไปค่ะ เช่นเดียวใบหน้าที่หมองคล้ำจากแดด เราจึงต้องหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปหรือขั้นกว่าคือใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องไปอยู่กลางแดดแรง ๆ เพื่อป้องกันการเร่งให้ขอบตาดำมากกว่าเดิม แถมการทากันแดดยังช่วยชะลอวัย ลดผิวอ่อนแอจากการถูกทำร้ายจากแสงยูวีด้วยนะคะ
-
ปรับเวลาการนอนให้เพียงพอ
ร่างกายของเราจะมีเวลาที่ต้องพักผ่อนอยู่ค่ะ และคนในแต่ละช่วงวัยก็จะมีปริมาณชั่วโมงที่ต้องนอนต่างกัน เราควรจะนอนหลับพักผ่อนให้ครบตามที่ร่างกายควรได้รับ เพื่อไม่ให้ขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้า การนอนตามเวลาและนอนอย่างเพียงพอ ยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น อวัยวะทำงานได้ดีขึ้น สุขภาพก็จะดีตามมาเองค่ะ (นอนไม่หลับเกิดจากอะไร… นอนหลับยาก ภัยเงียบที่ไม่ควรละเลย!!)
-
พยายามอย่าเครียด
ความเครียดที่มากเกินไปจะส่งผลให้ใต้ตาดำคล้ำได้ง่ายกว่าปกติค่ะ ในวันที่เหนื่อยหน่าย อ่อนล้า หรือตึงเครียดมาก ๆ ควรหาเวลาผ่อนคลายให้ตัวเองสักหน่อย พักสายตาสักนิด หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ลองหันมาจัดแบ่งตารางเวลากันบ้าง เพื่อลดชั่วโมงแห่งความเครียดของตัวเอง เวลาไหนพัก เวลาไหนทำงาน ช่วยลดขอบตาดำและไม่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจไปในตัวค่ะ
-
ลดการสูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่มีนิโคตินเป็นส่วนประกอบ ซึ่งตัวการที่ทำให้หลอดเลือดตีบและทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยบริเวณผิวใต้ตาได้ง่ายขึ้น ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดขยายตัว จนทำให้ดูเหมือนรอยคล้ำใต้ตา ดังนั้น หากใครที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ควรจะงดหรือลดความถี่ลงบ้าง ถ้าไม่อยากใต้ตาดำคล้ำ ขอบตาดำเหมือนนอนไม่พอนะคะ
วิธีแก้ขอบตาดำ รักษาด้วยตัวเองอย่างไร?
สำหรับใครที่ไม่สามารถป้องกันได้ทันแล้ว เป็นมาตั้งแต่เกิด หรือรู้สาเหตุแต่หาวิธีแก้ขอบตาดำไม่หายสักที ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ! หมอตวงรวบรวมวิธีแก้ขอบตาดำ ฉบับทำได้ด้วยตัวเองมาไว้ให้แล้ว ดังนี้
-
นอนให้พอ
หากสาเหตุของขอบตาดำคือการนอนน้อย หนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ต้องเริ่มปรับพฤติกรรมการนอนให้ไวเลยค่ะ โดยอาจจะเริ่มจากการนอนให้ครบชั่วโมงตามช่วงอายุ หรือนอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม งดเล่นโทรศัพท์หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้สายตามาก ๆ ก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบายและเร็วขึ้น แถมยังช่วยไม่ให้สายตาทำงานหนักเกินไปด้วยนะคะ
-
นอนหมอนสูงขึ้น
วิธีนี้อาจจรู้สึกว่างงนิดหน่อย นอนหมอนสูงช่วยแก้ขอบตาดำได้ยังไง? วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการหลั่งของเหลวในร่างกายเราค่ะ ซึ่งของเหลวเหล่านี้จะไปรวมกันอยู่ที่ใต้ตาจนบวมและดูคล้ำ การนอนให้สูงกว่าแนวระนาบ เพิ่มหมอนสักใบสองใบ อาจจะช่วยให้ของเหลวเหล่านี้มากองอยู่บริเวณใต้ตาได้น้อยลงค่ะ
-
นวดรอบดวงตา
การขยี้ดวงตาไม่เหมือนกับการนวดนะคะ! การขยี้ตานั้นมีความรุนแรงกว่ามาก ๆ เพราะการนวดจะเป็นการใช้นิ้วนวดบริเวณใต้ตาอย่างเบามือ เพื่อช่วยเลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้เลือดเกิดการอุดตันหรือคั่ง ช่วยลดความคล้ำบริเวณใต้ตาได้ไม่มากก็น้อยค่ะ อย่าทำแรงจนเหมือนขยี้ตาก็พอแล้ว
-
ประคบเย็นบริเวณขอบตาดำ
จากที่หมอได้แนะนำมาถึงตรงนี้ จะสังเกตได้ว่าการที่ขอบตาดำเป็นเพราะหลอดเลือดขยายตัวมากจนทำให้เห็นรอยคล้ำใต้ตาได้ชัด ดังนั้น วิธีแก้ที่เหมาะที่สุดคือการประคบเย็นนั่นเองค่ะ การประคบเย็นรอบดวงตาจะช่วยลดการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดหดตัวลง ใต้ตาดำก็จะลดลงไปด้วยค่ะ
-
แปะขอบตาดำด้วยถุงชา
ถุงชาจะเต็มไปด้วยคาเฟอีน ซึ่งมีสารต้านอนมูลอิสระจำนวนมาก ช่วยลดความหย่อนคล้อยใต้ตา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้รอบดวงตามีความคล้ำน้อยลงและหายบวมได้ แต่อย่าใช้ถุงชาที่กำลังร้อนนะคะ เอาไปต้มดื่มแล้วปล่อยพักไว้ให้เย็นก่อน แล้วนำมาประคบค่ะ หรือจะนำถุงชาไปแช่เย็นเพื่อให้เป็นการประคบเย็นไปในตัวด้วยก็ได้เช่นกัน
-
แปะขอบตาดำด้วยแตงกวาหรือมันฝรั่งฝาน
นอกจากถุงชาที่มีสารต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติแล้ว มันฝรั่งและแตงกวาก็ขึ้นชื่อเรื่องลดรอยขอบตาดำเช่นกันค่ะ เพราะมันอุดมไปด้วยทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกด้วย ฝานออกมาบาง ๆ แปะรอบดวงตาไว้สัก 10-12 นาที ก็จะช่วยลดขอบตาดำได้ หรือถ้ารู้สึกว่าใช้แบบฝานแล้วไม่ติดผิวดี สามารถนำไปบดแล้วสกัดออกมาเป็นน้ำฝรั่งหรือแตงกวา หยดลงบนสำลีแล้วแปะรอบตาเหมือนแบบฝาน ก็ช่วยได้เหมือนกันแถมแนบไปกับผิวดีกว่าด้วยค่ะ
-
ใช้สกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
อย่างที่บอกว่าสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดขอบตาดำได้ สำหรับใครที่ไม่อยากเอาผักผลไม้ให้เปลืองของกิน ก็สามารถพุ่งเป้าไปที่สกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับทาบริเวณรอบดวงตา เพื่อเป็นการรักษาเฉพาะจุดได้เลยค่ะ อาจจะเป็นครีมที่มีวิตามินซีหรืออี ที่มีส่วนช่วยกระลดความคล้ำรอบดวงตาก็ได้
-
กลบขอบตาดำด้วยเครื่องสำอาง
เป็นวิธีสุดท้ายที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบเห็นผลทันตาเลยค่ะ นั่นก็คือการกลบรอยคล้ำด้วยเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นคอนซีลเลอร์หรือรองพื้น ควักออกมาให้หมดค่ะ ในเมื่อลองรักษาใต้ตาดำ ขอบตาดำด้วยวิธีไหนก็ไม่ได้ผล ก็มีแค่ต้องปกปิดไว้เท่านั้น ไม่ต้องหาแตงกวามันฝรั่งให้มากความ โปะไปเลยค่ะ!
เกร็ดความรู้ : กินอะไรช่วยแก้ขอบตาดำคล้ำได้บ้าง?
นอกจากต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว การแก้ขอบตาดำยังสามารถบำรุงให้กระจ่างใสเป็นสีเดียวกับผิวส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าได้ด้วยการกินค่ะ โดยเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินซีและอี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่
- แตงกวา : มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เพิ่มความชุ่มชื้น
- มะเขือเทศ : บำรุงเส้นเลือด บำรุงผิว ทำให้เลือดไหลเวียนดี
- งา : อุดมไปด้วยวิตามินอี เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว บำรุงสายตาได้ด้วย
- แตงโม : เติมน้ำให้ร่างกาย มีวิตามินและไฟเบอร์ บำรุงผิวใต้ตา
- แบล็คเคอร์แรนท์ : มีสารแอนโธไซยานิน เพิ่มออกซิเจนให้ผิว ลดรอยคล้ำ
วิธีแก้ขอบตาดำ รักษาด้วยการไปพบแพทย์
วิธีต่อไปนี้ จะเป็นวิธีแก้ขอบตาดำสำหรับคนที่ไม่อยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเองค่ะ อย่างไรก็ตาม หมอขอย้ำว่าใต้ตาดำหรือขอบตาดำไม่ได้มีอันตรายอันใดแก่ร่างกาย ไม่จำเป็นต้องกำจัดก็ได้ แต่ถ้าใครอยากให้ขอบตาดำจางลงเพื่อเพิ่มความมั่นใจหรือเสริมบุคลิกจริง ๆ สามารถใช้วิธีต่อไปนี้ได้เช่นกัน แต่สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองมีขอบตาดำเป็นเพราะอะไร สามารถเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้ที่ Amara Clinic นะคะ ❤
-
ใช้ผลิตภัณฑ์เน้นลดขอบตาดำ
เมื่อไปพบแพทย์ เบื้องต้นแพทย์มักจะจ่ายยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดรอยขอบตาดำโดยตรงมาให้ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะหายได้ และต้องอาศัยวินัยของคนไข้ด้วย ดูแลตัวเองให้ดี ทายาอย่างสม่ำเสมอ งดขยี้ตา ทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่ทายาก็อาจจะหายได้เลยค่ะ
-
ลอกผิวด้วยสารเคมี
จะเป็นการใช้สารเคมีที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว หรือลอกผิวออกอย่างกรดอัลฟาไฮดรอกซี เพื่อกำจัดผิวชั้นนอกสุดที่ตายแล้วหรือมีความคล้ำหมองจากแสงแดดออกไป ช่วยลดเม็ดสีที่ทำให้มีใต้ตาดำได้ แต่วิธีจะต้องอาศัยการดูแลตัวเองระหว่างทำและหลังทำมาก ๆ เพราะผิวช่วงที่ลอกจะอ่อนแอ แต่ก็มีผลพลอยได้อื่น ๆ ตามมาหลายอย่างผิวใสขึ้น รอยสิวลดลง สิวแห้ง เป็นต้นค่ะ
-
การเลเซอร์ลบขอบตาดำ
เลเซอร์จะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวและทำให้ผิวกระชับ โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับเต่งตึง มีความฟูและสุขภาพดีมากขึ้น และเลเซอร์บางชนิดก็ช่วยให้เม็ดสีที่กระจุกรวมกันอย่างแน่นหนามีการกระจายตัวและสลายไป ทำให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส ลดสีผิวไม่สม่ำเสมอ กำจัดขอบตาดำจากความหมองคล้ำได้ตรงจุดเลยค่ะ
Pico Plus Laser นวัตกรรมน้องใหม่มาแรง! ตัวดังเรื่องหน้าใสไกลหลุมสิว เพื่อผิวกระจ่างใส แก้ขอบตาดำคล้ำ ให้หน้าดูสว่าง เหมือนนอนหลับเต็มอิ่มทุกวัน กระตุ้นคอลลาเจน เสริมความแข็งแรงของผิว สลายเม็ดสี บอกลาขอบตาดำสบาย ๆ!
-
สักกลบขอบตาดำ
วิธีนี้จะคล้าย ๆ กับการใช้เครื่องสำอางอย่างคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นกลบใต้ตาดำเลยค่ะ แต่แทนที่เราจะแต่งหน้าทุกวัน ก็เป็นการฝังเม็ดสีเข้าไปในผิวไปเลย เหมือนกับการสักสีแก้ม สักรองพื้น หรือสักอายไลน์เนอร์ แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่า วิธีนี้หมอแนะนำว่าให้ประเมินและไตร่ตรองให้ดี เพราะบางรายอาจมีอาการแพ้ เลือกที่สักไม่ดี ก็อาจจะเสี่ยงติดเชื้อด้วยค่ะ ดังนั้น เลือกการสักทางการแพทย์ ดีกว่าสักแบบทั่วไปนะคะ
-
ผ่าตัดใต้ตา
การผ่าตัดใต้ตาจะเหมาะกับคนที่มีขอบตาตำ มีใต้ตาดำจากการที่ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจนเกิดเงาของถุงใต้ตา จนทำให้ขอบตาดำ โดยสามารถผ่าตัดถุงใต้ตาเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินและผิวหนังที่หย่อนคล้อยออกไปได้ ปัจจุบัน ศัลยแพทย์มีเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อทำให้รอยผ่าตัดถุงใต้ตาเล็กที่สุดและทิ้งรอยแผลเป็นน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินอาการก่อนทำนะคะ
-
ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มใต้ตา
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้ฉีดเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา ลดขอบตาดำ และช่วยให้คนที่เบ้าตาลึก เบ้าตากลวงเหมือนคนนอนไม่พอตลอดเวลา ได้มีดวงตาที่ดูสดใสมากขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยปกปิดหลอดเลือดที่เห็นได้ชัดมากเกินไปและช่วยกลบเม็ดสีที่เข้มกว่าปกติให้ขอบตาดำดูสว่างขึ้นค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การแก้ขอบตาดำนั้นมีวิธีที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามสาเหตุของแต่ละคน ดังนั้น วิธีการแก้ขอบตาดำที่ง่ายที่สุด คือการสังเกตตัวเองค่ะ เมื่อทราบแล้วว่าตัวเองมีขอบตาดำเพราะอะไร ก็สามารถรักษาและแก้ขอบตาดำตามอาการอย่างตรงจุด รอยคล้ำใต้ตาก็จะหาย เผยผิวใต้ตาที่สดใส เสริมใบหน้าของเราให้ดูสดชื่น ไม่เหนื่อยล้า ไม่แพนด้าเหมือนเราคนเก่าแน่นอนค่ะ! แต่สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะรักษาขอบตาดำกับแพทย์ยังไงดี ไม่รู้ว่าต้องแก้ขอบตาดำด้วยวิธีไหน? สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ Amara Clinic นะคะ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ ❤