“หน้ามัน” ปัญหาผิวที่สร้างความรำคาญใจให้กับหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคน แถมยังเป็นต้นตอของปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ สิวหัวขาวหัวดำต่าง ๆ ที่กว่าจะรักษาสิวแต่ละชนิดให้หน้ากลับมาเนียนเหมือนเดิมก็นานโข เป็นสภาพผิวที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ และมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป สาระความรู้ในวันนี้ หมอตวง Amara Clinic จึงขอหยิบยกปัญหาหน้ามันมาเปิดดูว่า สาเหตุหน้ามันมีอะไรบ้าง หน้ามันเกิดจากอะไร แล้วมีผลยังไงต่อผิวเรา พร้อมวิธีแก้ผิวมัน ลดหน้ามัน ให้ชุ่มชื้นแต่ไม่เยิ้มกันค่ะ!
หน้ามัน เกิดจากอะไร?
สาเหตุของหน้ามัน เกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง (Sebaceous Glands) หนึ่งในส่วนประกอบของโครงสร้างผิว ทำการผลิตน้ำมันหรือซีบัม (Sebum) ออกมาเคลือบผิวมากเกินไป แม้จะเป็นน้ำมันตามธรรมชาติ แต่น้ำมันนี้ก็สามารถทำให้หน้าของเรามันเยิ้มกว่าปกติได้ และเป็นสาเหตุของปัญหาผิวและก่อให้เกิดสิวชนิดต่าง ๆ ตามมา หากหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนมีผิวที่มันวาวทั้งวัน ใช้แผ่นซับหน้ามันวันละหลายชิ้น หรือล้างหน้าแล้วหน้ามันภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือนาที นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนหน้ามันค่ะ
หน้ามันมาก หน้ามันทั้งวัน มีผลยังไงต่อผิวเรา?
ผิวที่มีความมันในระดับปกติพอดี จะช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรง ปกป้องตัวเองจากสารอนุมูลอิสระได้ ทั้งน้ำมันนี้ยังเป็นตัวเคลือบผิวไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ ทำให้หน้าของเรายังคงชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ แต่ถ้ามีน้ำมันมากเกินไป จนทำให้หน้ามันตลอดทั้งวัน จะมีผลต่อผิวเราหลัก ๆ คือการก่อให้เกิด “สิว” ซึ่งเกิดจากการผสมรวมของแบคทีเรีย เชื้อโรค เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และน้ำมันบนผิว จึงทำให้คนหน้ามันเป็นสิวได้ง่ายกว่าคนปกติ
ปัจจัยที่กระตุ้นให้หน้ามัน ผิวเยิ้ม
นอกจากการทำงานของต่อมไขมันที่ผิดปกติจะทำให้หน้าของเรามันแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้หน้าเรามันตลอดทั้งวันได้ หากเราทราบแล้วว่ามีอะไรกระตุ้นหน้ามันได้บ้าง ก็จะนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาหน้ามันอย่างตรงจุด โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้หน้ามันมีดังนี้ค่ะ
-
หน้ามันเพราะพันธุกรรม
สภาวะหน้ามันสามารถส่งต่อกันทางพันธุกรรมได้ค่ะ ขนาดรูขุมขนของเราก็เกี่ยวข้องกับยีน ถ้าเรารูขุมขนกว้างก็จะทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนทำให้หน้าเรามันกว่าคนอื่นค่ะ
-
อายุ
ช่วงที่เรายังเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ต่อมไขมันจะทำงานมากกว่าช่วงอายุอื่น ๆ ทำให้หน้ามัน แต่เมื่อเราเริ่มแก่ลง อายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและต่อมไขมันก็จะทำงานน้อยลงด้วยเช่นกัน ทำให้ผิวของคนแก่มีความเหี่ยวย่น ดังนั้น หากหน้ามันแบบไม่มีปัญหาผิวหนักมาก ไม่ต้องกังวลไปค่ะ พอแก่ตัวลง ก็จะหายมันไปเอง
-
ฮอร์โมนทำให้หน้ามัน
มีฮอร์โมนหลายตัวที่เป็นสาเหตุของหน้ามันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) มีมากเกินไปร่วมกับปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อย จนกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น หรือโกรทฮอร์โมน (Growth hormones) ที่มีมากในช่วงวัยรุ่น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หน้ามันจากฮอร์โมน ซึ่งจะทำให้หน้ามันเป็นสิวได้ง่าย จนเกิดเป็นสิวฮอร์โมนขึ้นมานั่นเอง
-
ความเครียด
เวลาที่ร่างกายของเราเครียดจะมีการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด โดยเฉพาะตัว Corticotrophin ซึ่งมีผลต่อการผลิตน้ำมันเคลือบผิว เกิดภาวะหน้ามันจากฮอร์โมน ร่วมกับหน้ามันเป็นสิวรุนแรง สังเกตจากช่วงที่เราทำงานหนักหรือช่วงสอบ มักจะมีสิวขึ้นแบบงง ๆ แถมยังอักเสบหนัก เพราะเหตุนี้นั่นเองค่ะ
-
หน้ามันเพราะการกิน
หมอมักจะบอกเสมอว่า สิ่งที่เรากินเข้าไปสามารถก่อให้เกิดสิวได้ค่ะ อาหารที่มีไขมัน น้ำตาล และแป้งสูง จะทำให้ร่างกายของเรามีการผลิตน้ำมันหรือซีบัมมากขึ้น นอกจากนี้ อาหาร ผัก ผลไม้บางอย่างก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนมากขึ้น อันเป็นสาเหตุหน้ามันได้เช่นกัน
-
สภาพแวดล้อม
อากาศที่มีความร้อนชื้นหรืออากาศที่แห้งมาก ๆ จะทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้นไปมาก จนต่อมไขมันพยายามผลิตน้ำมันขึ้นมาเพื่อให้ผิวยังคงชุ่มชื้นอยู่ ทำให้หน้ามันมากกว่าที่เคยเป็น หรือบางครั้งอาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบได้ แต่ถ้าอยู่ในสภาพอากาศที่พอดี หน้าก็จะมันน้อยลงค่ะ
-
รูขุมขนกว้าง
ไม่ว่าจะเป็นอายุ สภาพผิว หรือพันธุกรรม ล้วนเป็นสาเหตุของรูขุมขนกว้างทั้งนั้นเลยค่ะ ซึ่งรูขุมขนที่ขยายตัวมากกว่าปกติ จะทำให้น้ำมันหรือซีบัมออกมาเคลือบผิวได้เยอะ เป็นการระบายน้ำมันออกจากรูขุมขน จนทำให้หน้ามันนั่นเอง
-
สกินแคร์
ยังมีหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนยังคงมีปัญหาในการเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง คนที่อยู่ดี ๆ ก็หน้ามันมากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะได้เปลี่ยนมาใช้สกินแคร์ที่กระตุ้นให้ผิวมันมากขึ้น เพราะมีเบสเป็นน้ำมัน มีเนื้อที่หนักเกินไปจนทิ้งความมันเอาไว้บนผิว หรือดูดน้ำออกจากผิวจนผิวแห้ง ก็จะทำให้หน้ามันเอาได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
-
ผิวขาดความชุ่มชื้น
สำหรับคนที่ดื่มน้ำน้อย ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อวัน หรือหนักกว่าคือดื่มน้ำหวานนมเนยเพราะคิดว่ามันแทนน้ำเปล่าได้ หมอต้องบอกว่าผิดอย่างแรงค่ะ! น้ำเปล่าคือน้ำที่ดีที่สุดต่อร่างกายของเราแล้ว สามารถดูดซึมให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้ง่าย และไม่ปะปนกับน้ำตาลหรือไขมันจนทำให้หน้ามันเป็นสิวง่าย เพราะฉะนั้น เลือกดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ นะคะ
เกร็ดความรู้ : ผิวขาดน้ำ คือ ผิวมัน หรือเปล่า?
คำตอบคือ คล้ายกันค่ะ โดยจะมีสาเหตุเดียวกันคือ เกิดจากการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปของต่อมไขมัน แต่จะต่างกันตรงที่ลักษณะภายนอก โดยผิวมันจะมีความมันมากสุดในบริเวณ T-Zone ของใบหน้า มีความมันเยิ้มเกือบตลอดเวลา มีรูขุมขนกว้างเป็นสิวง่าย แต่ผิวขาดน้ำ จะมีความมันแค่บางช่วง มักจะมีความแห้งตึงและค่อย ๆ มันขึ้น ทว่าก็ยังรู้สึกได้ว่าผิวยังแห้ง บางเคสหน้าเป็นขุยทั้งที่มีน้ำมันเยอะก็มีค่ะ
ลดผิวมัน หน้ามัน แก้หน้ามันเยิ้มทำยังไงบ้าง?
หลังจากได้ทราบกันแล้วว่าปัจจัยที่กระตุ้นให้หน้ามันง่ายมีอะไรบ้าง เราก็จะต้องหาวิธีแก้หน้ามันอย่างตรงจุดกันค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วการกำจัดหน้ามันนั้นไม่มีจริง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการ “ลด” ความมันบนใบหน้าลงมากกว่า ทำให้หน้าของเรามีความมันน้อยลง ผลิตน้ำมันน้อยลง ลดโอกาสในการเกิดสิวมากขึ้นด้วยค่ะ
1. ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง
วิธีที่จะช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้าของเราอย่างง่าย ๆ คือการล้างหน้าค่ะ แต่ต้องเป็นการล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไปจะยิ่งทำให้ผิวแห้งเป็นขุยและผลิตน้ำมันออกมาเยอะขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว มีค่า pH ที่สมดุล ในตอนเช้าและเย็น จะทำให้ผิวสะอาดอย่างปลอดภัยค่ะ
2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
เริ่มด้วยการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เป็นอย่างแรกเลยค่ะ เพราะมอยซ์เจอไรเซอร์เป็นสกินแคร์พื้นฐานตัวสำคัญที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับคนที่มีผิวมันมาก ๆ เลยค่ะ เมื่อผิวเรามีความชุ่มชื้นมากพอ ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง อาจจะเริ่มจากการใช้สูตรที่เข้มข้นในตอนกลางคืน และใช้สูตรบางเบาในตอนเช้า เพื่อให้ผิวไม่มันระหว่างวันเกินไปค่ะ หรือจะเลือกเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการดริปคอลลาเจนให้ผิวก็ได้เช่นกันค่ะ
3. ใช้กระดาษซับมัน
วิธีนี้จะเป็นวิธีการลดความมันระหว่างวันบนใบหน้าค่ะ เหมาะกับคนที่ทำยังไงก็ยังหน้ามันอยู่ดี แถมยังมีความเยิ้มจนเครื่องสำอางหลุดง่าย การใช้กระดาษซับหน้ามันระหว่างวันจะช่วยดูดน้ำมันที่เคลือบผิวออก ตบแค่เบา ๆ ทั่วใบหน้าและเปลี่ยนแผ่นใหม่ถ้ากระดาษซับความมันไปทั้งแผ่นแล้ว แต่อย่าถูไปมานะคะ ไม่งั้นเชื้อแบคทีเรียหรือฝุ่นละอองจะกระจาย ทำให้อุดตันง่าย แถมยังทำให้ผิวระคายเคืองด้วย กระดาษซับมันเอาไว้ซับ ไม่ใช่เช็ดนะคะ
4. ใช้โคลนมาส์กหน้า
โคลนมาส์กหน้า ขึ้นชื่อเรื่องการขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนใบหน้าในวงการความงามอยู่แล้ว เพราะตัวโคลนสามารถดึงน้ำมันและทำความสะอาดรูขุมขนได้เมื่อล้างออก ขึ้นอยู่กับว่าเลือกใช้โคลนแบบไหน มาส์กด้วยโคลนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาทีก็เพียงพอแล้วค่ะ มาส์กนานกว่านี้อาจจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นมากเกินไป จากดีจะกลายเป็นแย่เอานะคะ
5. ดื่มชาเขียว
ชาเขียว (ไม่ผสมนม) นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอัดแน่นสุด ๆ เลยค่ะ โดยอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยทั้งเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ลดความมันบนใบหน้าให้มีความสมดุล ไม่จำเป็นต้องดื่มอย่างเดียว แต่สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของชาเขียวด้วยก็ได้เช่นกัน หอมแถมสุขภาพผิวดี ถูกใจสายชาเขียวแน่นอนค่ะ
6. ผลัดเซลล์ผิวบ้าง
ผิวของเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ของตัวเองเป็นประจำอยู่แล้ว และเซลล์ผิวที่ตายแล้วต้องการการกำจัดออกเพื่อไม่ให้รูขุมขนมีการอุดตันจนทำให้มีรัศมีกว้างขยายมากขึ้น มีโอกาสหน้ามันเป็นสิวง่ายกว่าเดิม โดยอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน (ห้ามขัดหน้านะคะ!) อย่างสารจำพวก Salicylic acid แต่ระวังอย่าใช้มากเกินไป เพราะสกินแคร์รูทีนบางตัวที่เราใช้อยู่อาจจะมีฤทธิ์หรือมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอยู่แล้ว ถ้าใช้ซ้ำกันมาก ๆ อาจจะผิวบางได้ ต้องอ่านส่วนผสมให้ดีนะคะ
7. ทากันแดดสม่ำเสมอ
แสงยูวีหรือแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวของเราในหลาย ๆ ด้านเลยค่ะ และหน้ามันก็มีสาเหตุมาจากแสงแดดได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องทากันแดดอย่างสม่ำเสมอและในปริมาณที่พอเหมาะ โดยตัวกันแดดจะต้องมีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการกันแดดสูงสุด นอกจากจะช่วยลดความมันบนใบหน้าแล้ว ยังช่วยป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วยค่ะ
8. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน
ลองสังเกตสกินแคร์รูทีนที่ใช้อยู่เป็นประจำดูก่อนค่ะ สกินแคร์บางตัวจะมีส่วนประกอบที่ไม่เหมือนกัน แต่สกินแคร์ที่มีส่วนผสมพื้นฐานเป็นน้ำมัน (Oil based) แม้จะเหมาะกับคนผิวแห้งมาก ๆ แต่ไม่เหมาะกับคนผิวมันอย่างแรงค่ะ เพราะน้ำมันในสกินแคร์จะทำให้หน้าของเรามันยิ่งกว่าเดิมและทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ด้วย
9. เลี่ยงผลิตภันฑ์ที่มีน้ำหอม
สกินแคร์หรือเครื่องสำอางหลาย ๆ ตัวมักจะมีการใส่น้ำหอมเพิ่มเข้ามาเพื่อให้รู้สึกน่าใช้ค่ะ ซึ่งความเป็นจริงก็ใช้ได้ถ้าผิวเราแข็งแรงมากพอ แต่ถ้าอยากลดหน้ามัน ป้องกันหน้ามันเป็นสิวให้ดี ควรจะเลือกใช้ตัวที่ปราศจากน้ำหอมมากกว่า เพราะน้ำหอมสามารถทำให้ผิวของเราระคายเคือง แพ้ คัน จนเป็นสิวได้ง่าย และด้วยเหตุนี้ก็จะไปกระตุ้นให้หน้ามันยิ่งกว่าเดิมค่ะ
10. ใช้แป้งคุมมัน
หากระหว่างวันเป็นคนหน้ามันมาก แต่ไม่สามารถล้างหน้าได้ ให้ใช้แป้งคุมมันระหว่างวันควบคู่ไปด้วยค่ะ โดยเลือกแป้งคุมมันหรือแป้งแต่งหน้าที่มีคุณสมบัติปราศจากน้ำมันเป็นส่วนผสม เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน นอกจากนี้ ควรเลือกแป้งที่ไม่มีส่วนผสมของทัลค์ (Talc) ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดมะเร็งปอดและทำให้ผิวระคายเคืองได้
11. งดหรือลดเมนูไขมันและน้ำตาลสูง
อย่างที่หมอได้บอกไปว่าของมันของทอดหรืออาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง จะทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น และกระตุ้นการอักเสบของสิวได้ด้วย ดังนั้น ถ้าอยากลดหน้ามัน ก็ต้องลดหรืองดเมนูที่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูง เพื่อตัดปัจจัยกระตุ้นหน้ามัน โดยเลือกทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เพื่อบำรุงผิวไปในตัวด้วยค่ะ
12. ใช้เรตินอยด์
เรตินอยด์ (Retinoids) เป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่สามารถลดการผลิตไขมันและขนาดรูขุมขนได้ค่ะ เพราะเรตินอยด์มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ใหม่ของผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงอิ่มน้ำ ผลัดเซลล์ผิวเก่าและลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนแคบลง ผิวก็จะมีความชุ่มชื้นมากพอ ส่งผลให้หน้ามันน้อยลงนั่นเองค่ะ
13. ใช้ครีมที่ผสมไนอะซินาไมด์
ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นอนุพันธ์วิตามินบี 3 ที่สามารถช่วยลดการผลิตน้ำมันบนผิวหน้าได้ โดยจะทำหน้าที่ปรับสมดุลของน้ำมันในผิว โดยป้องกันไม่ให้ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ทำให้รูขุมขนกระชับ นอกจากนี้ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน กระตุ้นความชุ่มชื้นของผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่ขาดน้ำ เต่งตึง หน้ามันน้อยลง
14. ใช้ครีมที่ผสมแอลคาร์นิทีน
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นสารที่มีหน้าที่ลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่เซลล์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน แอลคาร์นิทีนจึงเป็นตัวช่วยลดกรดไขมันในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้หน้ามันน้อยลงได้ นอกจากนี้ แอลคาร์นิทีนยังมีประโยชน์สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ดึงไขมันเก่ามาใช้ เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการอักเสบได้ด้วยค่ะ
15. ทำหัตถการลดหน้ามัน กระชับรูขุมขน
หากลอง 14 วิธีที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ผล หรือปฏิบัติตามไม่ได้ ก็ต้องมาจบที่การทำหัตถการเลยค่ะ โดยหัตถการที่ช่วยลดหน้ามันได้นั้นมีหลายประเภท ยกตัวอย่างบริการรักษาปัญหาผิวหน้าที่ Amara Clinic อาทิ
-
- ฉีดโบท็อก เพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันไม่ให้ทำงานมากเกินไป ก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันในผิวถูกผลิตออกมาน้อยลง สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัจจัยอื่นที่ทำให้หน้ามัน
- เมโสหน้าใส เพื่อเติมคอลลาเจนและวิตามินให้กับผิว ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและชุ่มชื้น นอกจากนี้ เมโสหน้าใสยังช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส เหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหาผิวโดยรวมค่ะ
- ทำเลเซอร์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการระบายน้ำมันออกมามากเกินไป ที่นิยมที่สุดคือ Pico Plus Laser ที่มีหลายหัวให้เลือกตามสภาพผิว ใครที่มีปัญหาผิวอื่น ๆ ร่วมกับผิวมัน หน้ามันเป็นสิว ต้องลองเลยค่ะ
- ดริปวิตามิน เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองค่ะ การดริปวิตามินจะช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนมากขึ้น ปรับสีผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้หน้ามันน้อยลงค่ะ
- ฉีดหน้าใส ด้วย Aura Collagen เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและช่วยกระชับรูขุมขน โดยการฉีดไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเติมน้ำให้ผิว แก้ปัญหาผิวขาดน้ำและรักษาสมดุลน้ำในผิวด้วย!
ลดหน้ามันเป็นสิว หน้ามันเยิ้ม ไม่สดใส กับ Amara Clinic ปลอดภัยได้ผลแน่นอนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การจะลดหน้ามันได้ ก็ต้องทราบสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้ามันก่อน เพื่อประเมินว่าผิวของเรามีปัญหาอะไรบ้าง อันจะนำไปสู่การรักษาและลดหน้ามันได้อย่างตรงจุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ แต่ถ้าใครที่มีปัญหาหน้ามันอย่างรุนแรง ใช้วิธีลดหน้ามันด้วยวิธีดังกล่าวแต่ยังไม่หาย ก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาแนวทางลดความมันบนใบหน้าอย่างถูกต้อง หากสนใจหรือต้องการติดต่อสอบถามเพื่อรักษาอาการหน้ามันผิดปกติกับหมอตวง สามารถเข้ามาพูดคุยกันก่อนได้ที่ Amara Clinic นะคะ