รักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า เห็นผลจริง ต้องลอง!

เส้นเลือดฝอยที่หน้า

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับหมอตวงและบทความสาระน่ารู้ Amara Clinic กันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้หมอจะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณที่คนมีสีผิวขาวต้องเผชิญ นั่นก็คือ เส้นเลือดฝอยที่หน้า เส้นเลือดฝอยที่แก้ม เส้นเลือดฝอยที่จมูก ที่ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจไม่น้อยเลย ซึ่งปัญหาเส้นเลือดฝอยที่หน้า รวมไปถึงฝ้าเลือด (ปื้นแดงที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอย) หากปล่อยทิ้งไว้โดยที่ไม่รักษา อาจทำให้เส้นเลือดฝอยที่หน้าลุกลามไปได้ทั่ว ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ หมอก็มีอีกหนึ่งเทคโนโลยีการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้ามาแนะนำกันค่ะ ซึ่งรับรองได้ว่าเป็นการรักษาอย่างตรงจุดและให้ผลจริง เพื่อผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้งค่ะ

เสื้อเลือดฝอยที่หน้า หรือ เส้นเลือดที่หน้า (Facial Telangiectasias) เป็นภาวะที่เส้นเลือดใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว และแตกออกจนเห็นเป็นรอยเส้นเลือดที่หน้า ซึ่งสามารถพบได้เป็นลักษณะเส้นเลือดฝอยที่แผ่เป็นเส้น หรือเป็นปื้นแดง ๆ ซึ่งการเกิดเส้นเลือดฝอยนั้นสามารถเกิดได้ตามร่างกายเลยค่ะ หากเป็นเส้นเลือดฝอยที่หน้าก็มักจะกระจายได้ตามบริเวณต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดฝอยที่แก้ม และเส้นเลือดฝอยที่จมูก นอกจากนี้ยังสามารถพบเส้นเลือดฝอยได้ที่น่องขา (เส้นเลือดขอด), นิ้วมือ, ฝ่ามือ และผิวหนังด้านหลังของเท้าที่บริเวณใต้ตาตุ่ม ในคนไข้บางรายอาจมีอาการคันและระคายเคืองบริเวณผิวหนังที่เห็นเป็นเส้นเลือดฝอยได้อีกด้วยค่ะ

เส้นเลือดฝอยที่หน้า

เส้นเลือดฝอยที่หน้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะหลัก ๆ คือ เส้นเลือดฝอยที่หน้าแบบ Facial Telangiectasias ซึ่งเป็นลักษณะที่หมอพบได้ในคนไข้ได้บ่อย ซึ่งเป็นลักษณะที่สามารถพบได้ที่บริเวณแก้มและปีกจมูก หรือเส้นเลือดฝอยที่แก้ม และเส้นเลือดฝอยที่จมูกนั่นเองค่ะ ส่วนเส้นเลือดฝอยที่หน้าอีกหนึ่งลักษณะคือ เส้นเลือดฝอยที่หน้าแบบ Spider Telangiectasias ซึ่งมีลักษณะเส้นเลือที่หน้าโยงกันไปมา แผ่กระจายเป็นกิ่งก้านสาขา คล้ายกับเส้นใยแมงมุม มีจุดแดงตรงกลาง และเมื่อสัมผัสเอามือไปสัมผัสจะรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจค่ะ

 เส้นเลือดฝอยที่จมูก

เส้นเลือดฝอยที่หน้า

เส้นเลือดฝอยที่แก้ม

เส้นเลือดฝอยที่หน้า

นอกจากนี้ ยังมีชนิดของเส้นเลือดฝอยที่หน้าอีกประเภทหนึ่ง คือ “ฝ้าเส้นเลือด” หรือที่หลายคนมักรู้จักในชื่อ “ฝ้าเลือด” (Telangiectatic Melasma / Vascular Melasma) ที่มีลักษณะเป็นปื้นแดง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอย และยิ่งผิวได้รับแสงยูวีในแสงแดดนาน ๆ ก็จะยิ่งทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพและผิวบางลง ทำให้เส้นเลือดฝอยในชั้นหนังแท้เพิ่มจำนวนขึ้น ส่งผลให้เห็นเส้นเลือดฝอยที่หน้าแตกแขนงจนกระจุกตัวบนผิวหน้า เกิดเป็นรอยสีชมพู สีน้ำตาลแดง ไปจนถึงมีสีคล้ำขึ้น คนที่เป็นฝ้าเลือดจะสังเกตได้ง่าย ๆ เลย คือ เมื่อเราอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด หรือโดนแดดร้อน ๆ หน้าจะมีอาการแดง และเมื่อกลับเข้าในที่ร่ม ใบหน้าก็ยังคงแดงอยู่นานกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุของฝ้าเลือดก็เกิดจากการใช้ครีมทาฝ้าแรง ๆ หรือครีมหน้าใส หน้าขาว ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ จนทำให้ผิวหน้าบางลง และเห็นเป็นเส้นเลือดฝอยที่หน้า รวมถึงยิ่งโดนแดดก็จะยิ่งทำให้ฝ้าเลือดเข้มขึ้น เนื่องจากเส้นเลือดที่หน้าเหล่านี้จะไปหลั่งสาร VEGF (Vascular Endothelial Growth Factor) ในเส้นเลือด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิว ทำให้ฝ้าเลือดเข้มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ

สาเหตุของการเกิดเส้นเลือดฝอยที่หน้า

  • โดนรังสียูวีจากแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ จนทำให้ผิวหนังบางลง จนสามารถมองเห็นเส้นเลือดฝอยที่หน้าได้อย่างชัดเจน
  • เกิดจากโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง Rosasea หรือโรคผิวหนังอักเสบ ทำให้เกิดความผิดปกติของต่อมไขมันร่วมกับเส้นเลือด ส่วนใหญ่จะเกิดที่บริเวณจมูก ทำให้จมูกเกิดอาการผิดรูปและเห็นเส้นเลือดฝอยที่จมูกชัดขึ้น
  • การใช้ยาหรือครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ทำให้ผิวหน้าบางลง เมื่อเกิดภาวะติดสารสเตียรอยด์ ผิวหน้าจะมีอาการแดงและมีเส้นเลือดที่หน้าชัดขึ้น เนื่องจากสารสเตียรอยด์ทำให้เส้นเลือดฝอยที่หน้าขยายตัว รวมถึงชั้นหนังแท้และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบางลง
  • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุที่มากขึ้น, การตั้งครรภ์, การอยู่ในที่ที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดนาน ๆ, คนที่รับประทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น

ฝ้าเลือดที่ใบหน้า

บทความที่น่าสนใจ

  • รอยแตกลายสีขาว รอยเก่าที่ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่หาย! แต่ที่ Amara Clinic รักษาได้! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รอยแตกลายสีขาว
  • ตีนกา รอยย่น รอยยับ ทำให้หน้าแก่! แต่รักษาหายได้แบบไม่ต้องเสียเวลาทาครีม อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลดริ้วรอยบนใบหน้า

รักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า ฝ้าเลือด ด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่

การรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า ทั้งเส้นเลือดฝอยที่แก้ม เส้นเลือดฝอยที่จมูก และฝ้าเลือด ด้วยนวัตกรรมแสงกึ่งเลเซอร์ Lumecca เป็นเทคโนโลยี Intense Pulsed Light หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในชื่อย่อ IPL แต่เครื่อง Lumecca จะใช้พลังงานที่เข้มข้นกว่า IPL ทั่ว ๆ ไปถึง 3 เท่า มีความยาวคลื่น 580-1,200 นาโนเมตร และมีระบบทำความเย็น (Cooling) ที่หัว เพื่อปกป้องผิวในระหว่างที่ทำการรักษา ช่วยรักษาผิวพรรณได้อย่างครอบคลุม ทั้งช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส (Photorejuvenetion) แก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ, รักษาเส้นเลือด (Vascular Lesions), กำจัดเม็ดสีที่ผิดปกติ (Pigmented Lesions) และสามารถใช้ในการกำจัดขนถาวร (Hair Removal) ได้ค่ะ

Lumecca

Lumecca จะมีการส่งความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่สุด ไปรักษาในบริเวณที่ต้องการทำการรักษาและทำปฏิกิริยากับเม็ดสีนั้นอย่างเฉพาะเจาะจงโดยใช้หลักการดูดซับพลังงานแสงของส่วนประกอบของผิวที่แตกต่างกัน (Selective Photothermolysis) เช่น ฮีโมโกลบินในเส้นเลือด หรือเมลานินในเม็ดสี เมื่อเป้าหมายที่ต้องการดูดซับพลังงานแสงเข้าไป ก็เปลี่ยนเป็นความร้อน ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ สำหรับคนไข้ที่รักษารอยโรคของเส้นเลือด หรือเส้นเลือดฝอยที่หน้า จะสังเกตได้ว่าหลังการรักษาด้วย Lumecca เส้นเลือดฝอยที่หน้าค่อย ๆ จางลงภายใน 2-3 วันค่ะ โดยรวมแล้วจะเห็นผลชัดเจนหลังจากที่ทำการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งหมอแนะนำให้ทำประมาณ 2-5 ครั้ง/ตำแหน่ง (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) และมีระยะห่างกันในแต่ละครั้งอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนค่ะ

หลักการของ Lumecca ต่อการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า

  • ฮีโมโกลบินในเส้นเลือดจะดูดซับแสงพลังงาน (ที่เปลี่ยนเป็นความร้อน) จากเครื่อง Lumecca 
  • เลือดจับตัวเป็นก้อน และพลังงานที่เปลี่ยนเป็นความร้อนจะไปที่ทำลายผนังหลอดเลืด (เส้นเลือดฝอยที่หน้า) ทำให้เส้นเลือดที่หน้าหดตัวลง
  • จากนั้น พวกก้อนเลือดและเศษผนังหลอดเลือดถูกกำจัดโดยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

ผลการรักษาเส้นเลือดที่หน้าด้วย Lumecca (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

เส้นเลือดฝอยที่หน้า
เส้นเลือดฝอยที่หน้า
เส้นเลือดฝอยที่หน้า
เส้นเลือดฝอยที่หน้า
เส้นเลือดฝอยที่หน้า
เส้นเลือดฝอยที่หน้า

บทความที่น่าสนใจ

  • รอยสิวกวนใจ ทั้งรอยแดง-รอยดำ ทาครีมไม่หาย ทำไงดี อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลดรอยสิวเร่งด่วน
  • ทำความรู้จักกับ IPL ช่วยอะไรได้บ้าง ทำแล้วหน้าใสจริงไหม หาคำตอบได้ที่ IPL คืออะไร

ขั้นตอนในการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า

  • แพทย์วิเคราะห์ปัญหาเส้นเลือดฝอยที่หน้า พร้อมแนะนำวิธีการรักษากับคนไข้
  • เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า ด้วยการทาเจลเย็นลงบนผิวหน้า
  • จากนั้น แพทย์จะใช้การยิงพลังงานจากเครื่อง Lumecca ยังบริเวณที่ต้องการทำการรักษา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวหน้าของคนไข้แต่ละราย
  • ระหว่างการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า คนไข้จะรู้สึกเหมือนผิวโดนดีดด้วยหนังสติ๊กเบา ๆ และอาจรู้สึกอุ่นที่ผิวได้บ้าง
  • หลังการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า ผิวหน้าที่ทำการรักษาอาจมีสีแดง ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองในเวลา 1-2 ชั่วโมงหลังทำ

การดูแลตัวเองหลังรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า

  • หลังการรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า เส้นเลือดฝอยที่จมูก เส้นเลือดฝอยที่แก้ม หรือฝ้าเลือด จะไม่ทำให้เกิดบาดแผลใด ๆ คนไข้จึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และสามารถแต่งหน้าได้
  • หลีกเลี่ยงการที่ใบหน้าจะโดนแสงแดดจัดโดยตรงประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยแนะนำให้สวมหมวกปีกกว้าง กางร่ม หรือใช้ผ้าปกคลุม หากต้องออกนอกบ้าน
  • ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ และทาก่อนออกแดดประมาณ 30 นาที
  • งดการสครับผิวหรือการทำทรีทเม้นท์อื่น ๆ ที่ทำให้ผิวบริเวณที่รับการรักษาเกิดอาการระคายเคือง
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ, วิตามินซี, AHA และ BHA
  • งดการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน-น้ำอุ่น งดการทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง และงดอยู่ในที่ที่ร้อนจัด เช่น การซาวน่า หรือการแช่ออนเซ็น เป็นต้น
  • บำรุงผิวหน้าด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยน ทั้งก่อนนอนและหลังตื่นนอน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าหลังการรักษา

บทความที่น่าสนใจ

  • ผิวไหม้จากแสงแดด หน้าแดง ทำอย่างไรให้ผิวสวยเหมือนเดิม อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ผิวหน้าไหม้
  • รูขุมขนกว้างปัญหากวนใจ แต่งหน้าก็ไม่สวย แต่หมอตวงมีทางแก้! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รูขุมขนกว้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สรุป

          หลังจากรักษาเส้นเลือดฝอยที่หน้า เส้นเลือดฝอยที่แก้ม เส้นเลือดฝอยที่จมูก รวมถึงฝ้าเลือดแล้ว หมอแนะนำให้ดูแลผิวพรรณอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดเส้นเลือดฝอยที่หน้า ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเส้นเลือดที่หน้า เช่น แสงแดด, การทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง, ยาทาหรือครีมที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ เช่น พวกครีมหน้าขาว หรือครีมทาฝ้า หากจำเป็นต้องใช้ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง และใช้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น สำหรับปัญหาเส้นเลือดฝอยที่หน้าอาจไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพ และไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากปล่อบทิ้งไว้นาน ก็อาจทำให้เส้นเลือดที่หน้าลุกลามจนทำให้ขาดความมั่นใจได้ หมอจึงแนะนำให้เข้ามาปรึกษาที่ Amara Clinic ได้ค่ะ หรือสามารถแอดไลน์เพื่อพูดคุยปรึกษาหมอได้ที่ LINE : @amaraskin

ขอบคุณภาพประกอบ


แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *