โบท็อก ปีกจมูก ช่วยลดปีกจมูกจริงไหม? เช็คก่อนตัดสินใจ!

โบท็อก ปีกจมูก

วันนี้ ใครที่กำลังมีแพลนหรือกำลังลังเลกับการตัดสินใจ ฉีดโบท็อก ปีกจมูกอยู่ว่า ทำแล้วลดปีกจมูกได้จริงไหม ทำแล้วจะอยู่ได้นานหรือเปล่า ถ้าเปรียบเทียบกับการตัดปีกจมูก จะเลือกแบบไหนดีระหว่างฉีดโบท็อกลดปีกจมูก หรือผ่าตัดลดปีกจมูก วันนี้หมอมะปราง Amara Clinic มีคำตอบพร้อมข้อมูลเรื่องโบท็อกลดปีกจมูกมาฝากกันค่ะ ทั้งการทำความรู้จักกับโบท็อก ปีกจมูกคืออะไร, โบท็อก ปีกจมูกและตัดปีกจมูก เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับเรา, ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดปีกจมูก รวมถึงการเตรียมตัว และดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกจมูกค่ะ 

โบท็อก ปีกจมูก

ขอบคุณภาพจาก : pinterest.com

โบท็อก ปีกจมูก คือ วิธีการลดปีกจมูก ไม่ศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากค่ะ เพราะช่วยลดปีกจมูกได้แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลได้รวดเร็ว เรียกได้ว่า สวยได้ทันใจใครหลาย ๆ คน โดยการฉีดโบท็อกลดปีกจมูกเป็นการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน ที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูกไว้ชั่วคราว ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับหลักการของฉีดโบลดกรามค่ะ

โบท็อก ปีกจมูก

ขอบคุณภาพจาก : mobilephysiotherapyclinic.in

การฉีดโบท็อก ปีกจมูก หมอจะฉีดโบท็อกจมูกบริเวณที่ปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง (ประมาณ 20-25 ยูนิต) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่กล้ามเนื้อเหนือปีกจมูก ที่ทำหน้าที่ช่วยให้ปีกจมูกขยับกางออกเมื่อเวลาที่เราแสดงสีหน้า (Alar Nasalis Muscle) เช่น การพูด, การยิ้ม หรือหัวเราะ โดยเมื่อหลังจากฉีดโบท็อกลดปีกจมูก จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนนี้มีการคลายตัวและอ่อนแรงลง ทำให้กล้ามเนื้อปีกจมูกไม่สามารถหดรัดตัวได้ ส่งผลให้เวลาที่เราแสดงสีหน้า ปีกจมูกจะขยับออกหรือกางออกได้น้อยลง ปีกจมูกและรูจมูกก็จะดูเล็กลง เมื่อมองโดยรวมแล้วจมูกก็จะดูเรียวขึ้นนั่นเองค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

  • เส้นริ้วรอยหน้าผาก ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัน จัดการยังไงให้ผิวเรียบตึง หาคำตอบได้ที่ รอยย่นหน้าผาก
  • ร่องน้ำหมากคืออะไร? อยู่ตรงไหน? รักษาได้อย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ร่องน้ำหมาก

โบท็อก ปีกจมูก VS ตัดปีกจมูก เลือกแบบไหนดี

หลายคนสงสัยว่า ระหว่างโบท็อก ปีกจมูก และตัดปีกจมูกจะเลือกแบบไหนดี เพราะโบท็อกจมูกเป็นการลดปีกจมูก ไม่ศัลยกรรมที่หลายคนมักจะเล็งไว้เป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากงบที่ใช้อาจจะน้อยกว่า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าจะถามว่าระหว่างโบท็อก ปีกจมูก และตัดปีกจมูก เลือกแบบไหนดีกว่า หมอก็ต้องบอกเลยว่า อันดับแรกเราต้องรู้สาเหตุของปีกจมูกบานของเราก่อนว่า เกิดมาจากอะไร เพราะการแก้ไขลดปีกจมูกทั้ง 2 วิธีจะเหมาะกับสาเหตุของปีกจมูกบานที่ต่างกัน เดี๋ยวเราลองมาเช็คสาเหตุที่ทำให้ปีกจมูกของเราบานกันก่อนค่ะ

ปีกจมูกบาน เพราะเนื้อเยอะ

หากเรามีเนื้อจมูกที่ค่อนข้างเยอะ ปัญหาที่ตามมาได้คือ จมูกดูใหญ่ จมูกโต และมีปัญหาปีกจมูกดูกว้างค่ะ สังเกตได้ว่าคนที่มีเนื้อชั้นผิวหนังที่เยอะจะมีปลายจมูกลม รวมถึงเวลาเราจับที่จมูกจะรู้สึกนิ่ม ๆ นั่นอาจเป็นเพราะเรามีปีกจมูกบาน จากสาเหตุของเนื้อเยอะซึ่งมีไขมันสะสมอยู่นั่นเอง และโดยส่วนใหญ่ ปีกจมูกบานจากเนื้อเยอะจะพบมากในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ ค่ะ ซึ่งปัญหาปีกจมูกบานจากสาเหตุผิวชั้นผิวปีกจมูกเยอะ มีไขมันสะสม สามารถลดปีกจมูกได้โดยการโบท็อก ปีกจมูก ไม่ศัลยกรรมได้ค่ะ

ปีกจมูกบาน เพราะกล้ามเนื้อ

ปีกจมูกบานจากสาเหตุของกล้ามเนื้อบริเวณเหนือปีกจมูก (Nasalis Muscle) จะทำให้ปีกจมูกของเรามีการยกตัวขึ้น ตามเวลาที่เราแสดงสีหน้า ทั้งเวลาที่เราพูด ยิ้ม หรือแม้แต่ที่เราหัวเราะ โดยลักษณะของปีกจมูกบานที่เกิดจากกล้ามเนื้อ จะสามารถลดปีกจมูกได้โดยการฉีดโบท็อก ปีกจมูกค่ะ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อเหนือปีกจมูก และส่งผลให้มีกล้ามเนื้อส่วนนี้ไม่สามารถหดรัดตัวได้ หรือขยับตัวได้น้อยลง โดยผลลัพธ์ที่ได้ คือ ปีกจมูกที่เล็กลง จมูกดูเรียวสวยยิ่งขึ้นค่ะ

ปีกจมูกบาน เพราะกระดูกอ่อน ปีกจมูกหนา รูจมูกกว้าง

สำหรับกรณีที่มีปีกจมูกบาน เพราะโครงสร้างของกระดูกอ่อน มีฐานปีกจมูกใหญ่ ซึ่งจะทำให้ปีกจมูกบานอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แสดงสีหน้า แค่ทำหน้าเฉย ๆ นิ่ง ๆ ก็มีปัญหาจมูกบาน รูจมูกกว้าง หากใครเช็คแล้วมีลักษณะแบบนี้ ก็เข้าข่ายที่จะมีปัญหาจมูกบานจากกระดูกอ่อน ซึ่งจะไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อก ปีกจมูก แต่หมอแนะนำให้ใช้วิธีตัดปีกจมูกแทนค่ะ ซึ่งจะสามารถแก้ไขลดปีกจมูกได้ตรงจุดที่สุด

บทความที่น่าสนใจ

  • เหงื่อที่รักแร้ตลอดเวลา เหงื่อออกเยอะผิดปกติ ฉีดโบท็อกซ์ช่วยได้! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เหงื่อออกรักแร้เยอะ
  • ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว อยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ๆ ต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ หลังฉีดฟิลเลอร์

ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดปีกจมูก

  • โบท็อก ปีกจมูก เหมาะกับคนที่มีปัญหาจมูกบานที่เกิดจากกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้ปีกจมูกบานเวลาที่แสดงสีหน้า เช่น ยิ้มและหัวเราะ หรือเหมาะกับคนที่มีปัญหาปีกจมูกบานจากชั้นผิว 
  • โบท็อก ปีกจมูก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการใช้วิธีผ่าตัดปีกจมูก กลัวการผ่าตัด หรือไม่อยากทำศัลยกรรม
  • โบท็อก ปีกจมูก เหมาะกับคนที่มีปัญหาจมูกบาน จนทำให้ขาดความมั่นใจ ต้องการลดปีกจมูก ไม่ศัลยกรรม
  • โบท็อก ปีกจมูก เหมาะกับคนที่ต้องการลดปีกจมูกแบบเห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้เลย
  • โบท็อก ปีกจมูก เหมาะกับคนที่กลัวว่าจะมีแผลเป็นหลังผ่าตัด หรือมีประวัติ หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย
โบท็อก ปีกจมูก

เตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก ปีกจมูก

  • หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาชนิดใดอยู่ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง หรือหากกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตรอยู่ จะไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อก
  • ก่อนฉีดโบท็อก ปีกจมูกประมาณ 2 สัปดาห์ ให้งดการรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริม ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) ยากลุ่มไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วิตามินอี น้ำมันปลา แปะก๊วย หรือโสม
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก่อนฉีดโบท็อกจมูก 1-2 สัปดาห์

ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก ปีกจมูก

  • หลังฉีดโบท็อกลดปีกจมูก อาจทำให้เกิดรอยแดง รอยเขียวช้ำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้ และจะหายไปได้เอง 2-3 วัน
  • หลังฉีดโบท็อก ปีกจมูก คนไข้สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • หลังฉีดโบท็อก ปีกจมูก แนะนำให้ขยับเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดทันทีตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลังฉีดโบท็อกจมูก ให้งดการนอนราบ 3-4 ชั่วโมง
  • งดการสัมผัสที่ผิวบริเวณที่ฉีดโบท็อก ปีกจมูกในทันที เพราะอาจทำให้ตัวยากระจายตัวได้
  • งดการทาครีมบำรุงผิวบริเวณที่ฉีดโบท็อก ปีกจมูก 1 คืน
  • งดการทำเลเซอร์ผิวหน้า งดการเข้าซาวน่า งดอยู่ในที่มีอากาศร้อน หรือการนั่งอยู่หน้าเตาหมูกระทะร้อน ๆ รวมถึงงดการออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 48 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกจมูก
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดโบท็อก ปีกจมูก

คำถามอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

หลังฉีดโบท็อกลดปีกจมูก จะเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วงสัปดาห์แรกค่ะ ซึ่งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกจมูกจะไม่หดรัดและไม่ยกดึงจมูกขึ้นได้ โดยเมื่อเราแสดงสีหน้า เช่น หัวเราะ ยิ้ม หรือพูด ปีกจมูกจะไม่ขยับกางออก ทำให้ปีกจมูกดูเล็กลง ปีกจมูกแคบลงค่ะ

หลังการฉีดโบท็อกจมูกเพื่อลดปีกจมูก ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง, จำนวนปริมาณของโบท็อกซ์ที่ใช้ รวมถึงปริมาณกล้าเนื้อปีกจมูกที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ โดยหลังจากฤทธิ์ของสารโบทูลินั่มท็อกซินหมดไปแล้ว จะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หลังจากนี้คนไข้สามารถกลับมาฉีดโบท็อก ปีกจมูกซ้ำอีกได้เรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่นานยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งหมอแนะนำให้เว้นระยะห่างในการฉีดโบท็อกลดปีกจมูกแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือนค่ะ

การฉีดโบท็อก ปีกจมูกเพื่อลดปีกจมูก เป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด และไม่เจ็บมากจนเกินไป (ความเจ็บในระดับที่ทนได้) แต่ทั้งนี้ บริเวณปีกจมูกถือว่าเป็นตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วจะรู้สึกเจ็บได้มากกว่าจุดอื่นบนใบหน้าค่ะ เนื่องจากมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในขั้นตอนการฉีดโบท็อกลดปีกจมูก หมอจะทำการประคบเย็บช่วยบรรเทาความเจ็บ หรือในระหว่างการฉีดโบท็อกจมูก คนไข้ยังมีอาการเจ็บมาก สามารถแจ้งให้ทายาชาได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องดูแลยังไง ให้สวยเป๊ะไม่มีบ้ง!

อ่านเพิ่มเติม

จัดการ!! สิวหัวดำ เผยหน้าเนียนใส จบวงจรสิวซ้ำซากให้อยู่หมัด

อ่านเพิ่มเติม

เลเซอร์รอยสิวที่เห็นผลดีที่สุดคือตัวไหน!?

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

          การฉีดโบท็อก ปีกจมูก นับว่าเป็นตัวช่วยลดปีกจมูก ไม่ศัลยกรรม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และยังเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ หากคนไข้ต้องการลดปีกจมูกด้วยการฉีดโบท็อกจมูก จะต้องมีปัญหาปีกจมูกบานเพราะชั้นผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อปีกจมูก แต่ในกรณีที่ปีกจมูกบานเพราะโครงสร้างกระดูกอ่อน รูจมูกกว้างมาก มีปัญหาปีกจมูกบานตลอดเวลา หมอจะแนะนำให้ใช้วิธีการตัดปีกจมูกแทนค่ะ หรือใครที่ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาปีกจมูกกว้าง จมูกบาน ที่เป็นอยู่เกิดจากสาเหตุอะไร และสามารถฉีดโบท็อก ปีกจมูกได้ไหม สามารถเข้ามาให้หมอตรวจวิเคราะห์ได้ก่อนที่ Amara Clinic หรือนัดคิวพบแพทย์ได้ที่ LINE : @AmaraSkin ค่ะ


KOL Trainer แพทย์ผู้สอน
ดูดไขมัน Water-jet

พญ.กรพร สถิตวิทยานันท์ (หมอมะปราง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *