สิวหัวดำ (Blackheads) จัดเป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่พบได้บ่อยแต่จัดการให้หมดไปได้ยากมาก ๆ หลายคนมักใช้วิธีกำจัดสิวประเภทนี้กันผิดอยู่บ่อย ๆ หลายคนที่คิดว่าสิวหัวดำดูไม่อันตราย หมอขอบอกเลยว่าอย่าไว้ใจสิวประเภทนี้เด็ดขาดค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าเราดูไม่เรียบเนียน และมีจุดดำขึ้นทั่วใบหน้าแล้ว ยังทำให้ใบหน้าเสี่ยงต่อการเกิด ปัญหาสิวอักเสบ รูขุมขนกว้าง และหลุมสิวตามาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นวันนี้หมอตวง Amara Clinic จึงอยากจะพาทุกคนไปดูตั้งแต่ในเรื่องของ สิวหัวดํา เกิดจากอะไร? และควรรักษาอย่างไร? รวมทั้งแนวทางป้องกันสิวหัวดำ ที่ทำแล้วผิวจะดีขึ้นและช่วยยุติวงจรสิวได้อย่างเห็นผลมาก ๆ ค่ะ – หมอตวง Amara Clinic
สิวหัวดำ จัดเป็นสิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedones) มีลักษณะเป็นหัวสิวที่นูนออกมาจากผิวเล็กน้อย บริเวณตรงกลางของหัวสิวจะมีสีดำคล้ำ เมื่อลองเอามือไปจับดูจะรู้สึกว่ามีก้อนแข็งอยู่ใต้ผิวเป็นเม็ดเล็ก ๆ ในบางเคสที่เป็นมานาน อาจกลายเป็นสิวหัวดํา แข็งเหมือนหินได้ สิวประเภทนี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายแต่ใช้เวลาในการรักษานาน คนไข้หลายคนมักจะเกิดสิวหัวดำขึ้นตั้งแต่ช่วงเข้าวัยรุ่น บางคนเป็นสิวชนิดนี้นานไปจนถึงช่วงวัยทำงานก็มีค่ะ สิวหัวดำจึงกลายเป็นอีกปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับใครหลายคนเลยค่ะ เพราะเจ้าน้องสิวประเภทนี้นอกจากจะทำให้ใบหน้าเป็นจุดดำแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวและความมั่นใจในหลาย ๆ ด้านอีกด้วยค่ะ
สิวหัวดำ ส่งผลเสียต่อผิวอย่างไร?
- ผิวหน้าไม่เรียบเนียนและดูไม่กระจ่างใส
- รูขุมขนกว้างขึ้น เกิดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ง่าย
- กลายเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต
- เกิดเป็นรอยดำ รอยแดง ได้เมื่อสิวหายแล้ว
- แต่งหน้าไม่ติด เห็นเป็นคราบและรอยชัดเจน
- หน้ามันง่ายขึ้น
สาเหตุของสิวหัวดำ
ในส่วนของสาเหตุสิวหัวดำ หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเกิดจากการที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดอยู่ที่รูขุมขนจนเห็นเป็นสีดำเข้ม แต่จริง ๆ แล้ว สิวหัวดำ เกิดจากภาวะรูขุมขนอุดตัน เนื่องจากซีบัม (Sebum) และเซลล์ผิวหนังที่ตายรวมตัวกัน จนทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดเป็นปัญหาสิวหัวดำขึ้นมาค่ะ สิ่งที่ทำให้เรามองเห็นสิวชนิดนี้เป็นสีดำ เป็นเพราะผิวหนังเกิดกระบวนการที่เรียกว่า ออกซิไดซ์ (oxidation) อย่างเช่นเดียวกับที่เกิดในผักและผลไม้ หมอขออธิบายให้ทุกคนเห็นภาพง่ายขึ้นคือ เวลาที่เราหันแอปเปิ้ลทิ้งไว้จะสังเกตได้ว่า บริเวณเนื้อของแอปเปิ้ลที่เจอกับอากาศจะมีสีดำคล้ำขึ้น ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากกระบวนการออกซิไดซ์ ดังนั้นผิวหนังที่อุดตันเมื่อไปสัมผัสกับอากาศก็จะเป็นจุดสีดำขึ้นมาเช่นกันค่ะ ไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกภายนอกมาอุดตันอย่างที่หลายคนเข้าใจค่ะ
ซีบีม คืออะไร?
ซีบัม (Sebum) คือไขผิวหนังหรือความมันที่เคลือบผิวเราอยู่ ซึ่งในซีบัมจะมีอยู่ทั่วผิวหนังร่างกายของเราเลยค่ะ ยกเว้นบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ซีบัมจะถูกผลิตออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังเรา ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังเราและบำรุงเส้นขนให้เงางาม แต่หากว่าผิวหนังของเราสูญเสียสมดุลของซีบัมจะทำให้เกิดปัญหาผิวได้ค่ะ โดยแบ่งได้เป็น 2 กรณี
- ซีบัมมีน้อยเกิดไป เมื่อผิวหนังของเราสูญเสียซีบัมไปจะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งเป็นขุย ผิวอ่อนแอ รวมทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอยบนผิวได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
- ซีบัมเยอะเกินไป สำหรับคนที่มีการผลิตซีบัมออกมาเยอะเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย เช่น สิวหัวดำ สิวอุดตัน สิวอักเสบ
ดังนั้นการรักษาสมดุลของซีบัมจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ จากการดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียง ลดการทานอาหารทอด และใช้โฟมล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนสูงค่ะ
บริเวณที่มักเกิดสิวหัวดำ
สิวชนิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวเลยค่ะ บริเวณที่สิวหัวดำมักจะขึ้นอยู่เยอะจะเป็นช่วงบริเวณจมูก หน้าแก้ม และบริเวณหลัง
-
สิวหัวดำที่จมูก
บริเวณปลายจมูกและปีกจมูก จัดเป็นส่วนที่มีสิวหัวดำขึ้นเยอะกว่าทุกส่วนบนใบหน้า นั่นเป็นผลมาจากที่จมูกของเราจะมีซีบัมหรือไขผิวหนัง อยู่เป็นจำนวนมากเราจะสังเกตได้จากที่จมูกของเราจะมีความมันมากกว่าช่วงอื่น ๆ นั่นเป็นผลมาจากซีบัมค่ะ ดังนั้นโอกาสที่เกิดสิวหัวดำและสิวเสี้ยนต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นได้ง่ายที่จมูกของเราค่ะ
-
สิวหัวดำที่แก้ม
แม้ว่าแก้มของเราก็จัดเป็นอีกส่วนที่พบสิวหัวดำได้อยู่บ่อย ๆ เช่นกันค่ะ เป็นเพราะบริเวณแก้มของเราจะมีไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก เซลล์ผิวที่ตายจึงไปรวมตัวกับซีบัมบริเวณแก้ม จนเกิดเป็นสิวหัวดำขึ้นมาค่ะ อีกทั้งหลายคนก็มักเผลอเอามือไปเกาและจับบริเวณแก้มอยู่บ่อย ๆ ทำให้เซลล์ผิวอักเสบเพิ่มได้ด้วยค่ะ สิวหัวดำบริเวณแก้มจึงมักกลายเป็นสิวอักเสบได้ง่าย หากคนไข้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
-
สิวหัวดำที่หลัง
แผ่นหลังของเราสามารถเกิดสิวได้หลายประเภทมาก ๆ ค่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือสิวหัวดำค่ะ ผิวที่หลังมักเกิดการผลัดเซลล์ผิวอยู่บ่อย ทั้งจากกระบวนการตามธรรมชาติ และการใช้สารผลัดเซลล์ผิวต่าง ๆ ทำให้เซลล์ผิวที่ตายบางส่วนอุดตันที่รูขุมขนบริเวณหลังของเรา จนเกิดเป็นสิวหัวดำที่หลังขึ้นมาได้ค่ะ
วิธีกำจัดสิวหัวดำ ให้อยู่หมัด ไม่ทำร้ายผิว
ใครที่อยากกำจักสิวหัวดำให้หมดไปโดยไม่ทำร้ายผิว หมอตวงได้รวบรวมเทคนิคดี ๆ มาฝากทุกคน ที่หมอรับรองเลยว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนทำตามได้ง่าย ๆ และหายขาดจากสิวหัวดำแน่นอนค่ะ เดี๋ยวเราไปดูวิธีกำจัดสิวหัวดำฉบับ หมอตวง Amara Clinic กันเลยค่ะ
ล้างหน้าให้สะอาด
การล้างหน้า ถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้เราได้ทำความสะอาดสิ่งสกปรก และยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและรู้สึกตื่นตัวอีกด้วยค่ะ ดังนั้นการล้างหน้าจึงควรล้างให้สะอาด โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้ายิ่งต้องให้ความสำคัญในส่วนนี้ เพราะหากเราไม่ค่อยล้างหน้าหรือล้างหน้าไม่สะอาด จะทำให้ความมัน เซลล์ผิวหนังที่ตาย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ยังคงอยู่ตามรูขุมขน ทำให้ผิวเกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวหัวดำและปัญหาผิวต่าง ๆ ตามค่ะ
ใช้ยารักษาสิวตามคำแนะนำแพทย์และเภสัช
การรักษาสิวที่ดีคือควรรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการและสภาพผิว หมอจึงขอแนะนำให้ผู้ที่เป็นสิวหัวดำในระยะแรก ควรปรึกษาการใช้ยารักษาสิวตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง หรือ ปรึกษากับทางเภสัชเพื่อรับยาละลายหัวสิวได้ค่ะ แต่หมอก็ขอย้ำว่าการใช้ยารักษาสิวบ้างชนิดไม่ควรหาซื้อมาใช้เองตามอินเทอร์เน็ตค่ะ เพราะตัวยาอาจมีความแรงกว่าสภาพผิวหน้าของเราได้ค่ะ คนไข้ที่เป็นสิวจึงควรเข้ามาตรวจผิวหน้ากับแพทย์ผิวหนังก่อน จะช่วยให้รักษาปัญหาสิวได้ถูกจุดและหายจากสิวเร็วยิ่งขึ้นค่ะ
รักษาด้วย Pico Laser
Pico laser เป็นเลเซอร์ที่ช่วยในการรักษาปัญหาสิวและผิวหน้า ที่ถูกพัฒนามาให้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเลเซอร์ชนิดนี้ก็มีหลากหลายแบบด้วยกันค่ะ แต่สำหรับในเคสที่ต้องการรักษาปัญหาสิวและฟื้นฟูผิวหน้า หมอจะแนะนำเป็นการรักษาด้วย Pico Resolve Laser หลักการทำงานคือการปล่อยลำแสงเลเซอร์ชนิด Picosecond ที่ยิงออกมาเป็นจุด ๆ ในบริเวณที่ต้องการรักษา โดยแพทย์จะยิง 100 จุด ภายในพื้นที่ 6×6 ตารางมิลลิเมตร พลังงานของ Picosecond จะช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนในชั้นผิว ยังช่วยรักษาสิวให้หายได้อย่างรวดเร็ว คนไข้ส่วนใหญ่จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของผิวหน้าที่เรียบเนียนขึ้น กระชับรูขุมขน และทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลยค่ะ
รักษารอยสิว ยังไงดี?
เมื่อเป็นสิวสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างรอยสิว ก็ดูเหมือนจะตามติดเป็นเงาตามตัว เรามาจัดการรอยดำรอยแดงจากสิว ไปด้วยกันนะคะ ถ้าให้หมอแนะนำเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่ช่วยในเรื่องของปัญหารอยสิวและริ้วรอย คงไม่พูดถึง Morpheus8 ไม่ได้ค่ะ เพราะนอกจากเขาจะมีความสามารถในการยกกระชับใบหน้า รักษาหลุมสิวแล้ว Morpheus8 ก็ยังสามารถช่วยลดเลือนในเรื่องของรอยสิวและริ้วรอยต่าง ๆ ได้อีกด้วยค่ะ เรียกว่าทำครั้งเดียวช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวได้อย่างหลากหลายมาก ๆ ค่ะ เพราะ Morpheus8 เป็นการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ลงไปที่ชั้นผิวในความลึกที่เราต้องการรักษา ช่วยรักษาปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นค่ะ – อ่านเพิ่มเติม Morpheus8
5 วิธีป้องกันสิวหัวดำ ที่ใครก็ทำตามได้
1.ไม่จับ ไม่แกะ ไม่บีบ
เมื่อเราเป็นสิวพฤติกรรมที่หลายคนทำเป็นอัตโนมัติก็คือ การจับ แกะ และบีบ ที่บริเวณสิว พฤติกรรมเหล่านี้ต่างทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ยังกระตุ้นให้ผิวหน้าของเราเกิดสิวอื่น ๆ ตามมาได้ง่ายและเยอะยิ่งขึ้น ดังนั้นคนที่เป็นสิวหัวดำจึงไม่ควรบีบหรือแกะเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดเป็นหลุมสิวและยังก่อให้เกิดวงจรสิวที่ทำให้ระยะเวลาการรักษานานยิ่งขึ้นค่ะ
2.หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นลอกสิว
แผ่นลอกสิว แม้จะช่วยดึงลอกสิวออกมาได้อย่างทันที แต่การใช้แผ่นลอกสิวจะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และยังทำให้ผิวหน้างอ่อนแอจนเกิดเป็นอาการเสบแดงขึ้นมาได้ค่ะ การใช้แผ่นลอกสิวจึงเป็นวิธีการรักษาสิวที่ไม่เหมาะสม และทำให้วงจรสิวกลับมาได้ค่ะ
3.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสูง จะช่วยให้ผิวหน้าที่เป็นสิวได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพราะช่วงที่เราเป็นสิวผิวหน้าจะมีความอ่อนแอ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความรุนแรงจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้า ครีมกันแดด หรือ เครื่องสำอาง ก็ควรเน้นใช้แบบสูตรสำหรับผิวเป็นสิวและแพ้ง่ายค่ะ เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหารูขุมขนอุดตัน
4.บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ถือเป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่มีความสำคัญอย่างมากค่ะ หากใครที่ไม่อยากเป็นสิวหัวดำ หรือต้องการรักษาสมดุลน้ำในผิว การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำในทุกวัน จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ไปและยังช่วยเสริมให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงอีกด้วยค่ะ เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นสารที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังโดยตรง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองใด ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนที่มีสภาพผิวแบบไหนก็ควรบำรุงผิวด้วยสารบำรุงผิวนี้ค่ะ
5.พบแพทย์ผิวหนังเป็นประจำ
การพบแพทย์ผิวหนังเป็นประจำ นอกจากคุณหมอจะช่วยรักษาอากาศผิวต่าง ๆ แล้ว คนไข้ที่มารักษาปัญหาผิวเป็นประจำยังสามารถที่จะป้องกันปัญหาผิวได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งยังช่วยให้คนไข้เรียนรู้ที่จะดูแลผิวเป็นสิวได้อย่างถูกต้องอีกด้วยค่ะ และมากไปกว่านั้นเราจะเข้าใจถึงสภาพผิวของเรา และความต้องการของผิวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ ซึ่งที่ Amara Clinic ของเราก็มีบริการในเรื่องของการให้คำปรึกษาในเรื่องผิวหนัง หากใครที่ต้องการปรึกษาปัญหาเบื้องต้น สามารถแอดไลน์เพื่อนัดคิวพบหมอได้เลยค่ะ LINE : @amaraclinic (ที่สำคัญทางคลินิกของเราให้บริการปรึกษาฟรีด้วยนะคะ)
รักษาสิวหัวดำ ที่ไหนดี
สำหรับคนที่กำลังมองหาคลินิกรักษาสิวหัวดำ หมอขอแนะนำว่าเราควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ แพทย์มีความชำนาญในเรื่องของการรักษาปัญหาผิว คลินิกมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ไม่ควรเลือกจากเพียงแค่ราคาถูกเท่านั้น เพราะหากราคาถูกแล้วรักษาไม่หาย ก็ทำให้เราต้องไปจ่ายค่ารักษาที่อื่นเพิ่มอยู่ดี ดังนั้นหมอจึงขอแนะนำให้คนไข้เลือกจากคุณภาพของการรักษาจะเป็นการดีกว่าค่ะ
ที่ Amara Clinic นอกจากเรามีชื่อเสียงในเรื่องของการดูดไขมัน-เติมไขมันแล้ว ในเรื่องของการรักษาปัญหาผิว เราก็ได้คัดเลือกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นเครื่องแท้ตรวจสอบได้ มารักษาให้กับคนไข้ในทุก ๆ เคสเลยค่ะ ดังนั้นหากคนไข้มารักษาปัญหาผิวหน้าที่ Amara Clinic แล้ว หมอรับรองได้เลยว่าหลังการรักษา คนไข้จะได้รับผลลัพธ์ตามที่คาดหวังกลับไปแน่นอนค่ะ ซึ่งในเคสของผิวหนังหมอตวงก็จะเป็นคนที่รับหน้าที่ ทั้งในเรื่องของการให้คำปรึกษา การประเมินปัญหา และการรักษา อีกทั้งเรายังมีทีมเจ้าหน้าทีคอยติดตามผลและให้คำปรึกษากับคนไข้ตลอดเวลาเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
สำหรับบทความเกี่ยวกับเรื่องสิวหัวดำที่หมอได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ หมอเชื่อว่าถ้าทุกคนอ่านจนจบจะได้ทั้งความรู้ในเรื่องของ ต้นตอสิวหัวดำ แนวทางการรักษาสิวหัวดำ และวิธีป้องกันสิวหัวดำ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปทำตามได้ง่าย แม้ว่าสิวหัวดำจะเป็นปัญหาที่เราพบเห็นได้อยู่บ่อย ๆ แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้สิวลุกลามจนต้องลดความมั่นใจของเรานะคะ ดังนั้นหากใครที่ต้องการเข้ามารักษาปัญหาสิวและปัญหาผิวในเรื่องอื่น ๆ ก็สามารถมาปรึกษากับหมอตวงได้เลยค่ะ หมอยินดีให้คำปรึกษากับทุกคนเสมอค่ะ