วิตามินผิวขาว ดีจริงไหม!? เลือกใช้ยังไงให้ผิวขาวขึ้นจริง!!

วิตามินผิวขาว

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ “วิตามินผิวขาว” มาก่อน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ด้านความงาม ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับการเลือกใช้วิตามินผิวขาวอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ทำให้หลายคนเลือกใช้วิตามินผิวขาวอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดทั้งผลเสียในเรื่องของสุขภาพและปัญหาผิวที่ดูไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นวันนี้หมอตวงจึงขออาสามาไขข้อสงสัยทั้งในเรื่องของ วิตามินผิวขาว คืออะไร? วิตามินผิวขาว อันตรายไหม? เลือกใช้วิตามินอย่างไรให้เห็นผลจริง? พร้อมคำแนะนำในการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสจากแพทย์ผิวหนัง ที่รับรองว่าทำตามแล้วผิวขาวขึ้นภายใน 7 วันแน่นอนค่ะ พร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ – หมอตวง Amara Clinic

วิตามินผิวขาว

วิตามินผิวขาว คือ วิตามินที่มีคุณสมบัติในการปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนมีออร่ายิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งวิตามินผิวขาวก็มีให้เลือกใช้หลายประเภทมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น แบบเม็ด แบบผง แบบทา และแบบฉีด ซึ่งในวิตามินผิวขาวแต่ละชนิดก็จะช่วยในเรื่องของการปรับผิวขาวช้าเร็วแตกต่างกันไปค่ะ โดยส่วนผสมหลัก ๆ ในวิตามินผิวขาวจะมาจาก วิตามิน C, B3, E และ คอลลาเจน มาใช้เป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น กลูต้า วิตามินรวม และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสูตรที่ผลิตออกมาค่ะ สำหรับวิตามินขาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็จะเป็น วิตามินซี กลูต้า และ วิตามินบี 3 เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ให้ผลลัพธ์ในเรื่องของผิวขาวใสโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในทุกวัน ช่วยเสริมให้ภูมิคุ้มกันและผิวแข็งแรงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน และในวิตามินบางชนิดยังต้องมีการเว้นช่วงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นจึงควรศึกษาส่วนผสมให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อวิตามินผิวขาว

วิตามินผิวขาวแบบกินกับฉีด แบบไหนดีกว่ากัน!?

สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าควรจะเลือกปรับผิวขาวด้วย วิตามินผิวขาวแบบกิน หรือ ฉีดวิตามินผิวขาว แบบไหนดีกว่ากัน? หมอขอตอบเลยว่าจริง ๆ ทั้งสอบแบบมีข้อดีทั้งคู่ค่ะ เพียงแค่เราต้องเลือกใช้ให้เป็นค่ะ สำหรับคนที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้นไว ๆ หมอแนะนำให้เลือกฉีดวิตามินผิวขาวก่อน พอฉีดครบตามที่แพทย์แนะนำแล้ว จึงคอยเปลี่ยนไปทานวิตามินผิวขาวแบบกิน การใช้วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้ว ยังช่วยเติมเต็มวิตามินให้กับผิวและร่างกายอย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้วิตามินผิวขาวไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ต่างก็มีข้อเสียที่ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้ โดยหมอขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้วิตามินและข้อดีข้อเสีย ดังนี้

วิตามินผิวขาวแบบกิน

เป็นประเภทของวิตามินผิวขาวที่เข้าถึงได้ง่าย มีวางขายทั้งในร้านขายยาและร้านค้าชั้นนำ การกินวิตามินผิวขาวสูตรต่างล้วนต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน วิธีกินที่ถูกต้องควรทานติดต่อกันต่อเนื่อง 3 เดือนแล้วพัก 1-2 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ไตทำงานหนักจนเกินไป

วิตามินผิวขาว

ข้อดี

  • หาซื้อง่ายราคาไม่แพง
  • มีสูตรวิตามินให้เลือกเยอะ
  • ช่วยปรับผิวให้นุ่มลื่น กระจ่างใสขึ้น
  • เสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวให้แข็งแรง
  • ไม่เจ็บตัว

ข้อเสีย

  • เห็นผลลัพธ์ช้า 
  • หากทานมากไปส่งผลต่อไตได้
  • มีน้ำตาลตกค้างในร่างกาย หากสะสมมาก ๆ ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

วิตามินผิวขาวแบบฉีด

เป็นวิธีให้วิตามินโดยการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดดำ ดังนั้นจึงต้องให้บริการโดยแพทย์ ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการฉีดวิตามินจะช่วยเสริมให้ ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน ซึ่งการฉีดวิตามินให้ผิวในแต่ละที่ ก็มีสูตรและสัดส่วนของวิตามินที่แตกต่างกันไป จึงให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปตามคุณภาพของวิตามินที่คลินิกนั้น ๆ ใช่ค่ะ โดยปกติการฉีดวิตามินผิวขาวจะเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก แต่จะเริ่มเห็นความแตกต่างชัดเจนที่สุดหลังจากฉีดไปแล้ว 3 ครั้งขึ้นไปค่ะ โดยส่วนมากจะฉีดกันอยู่ที่ 4-5 ครั้งแล้วบำรุงผิวด้วยครีมกันแดดและโลชั่น หรือ ทานวิตามินต่อหลังฉีด เพื่อรักษาความสว่างของผิวไว้

วิตามินผิวขาว

ข้อดี

  • เห็นผลลัพธ์ทันที 
  • ผิวขาวกระจ่างใส 
  • ซ่อมแซมส่วนที่ซึกหรอและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
  • ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ครับถ้วน 100% 
  • ใช้เวลาทำน้อยเพียงแค่ 10-15 นาที
  • สามารถปรับสูตรให้เหมาะกับร่างกายได้

ข้อเสีย

  • ต้องทำการฉีด ในบางคนอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
  • หลังทำหากไม่ดูแลผิว อาจกลับมาคล้ำได้

เติมวิตามินผิวขาวเร่งด่วนด้วย IV Drip

ตอนนี้ทุกคนก็ได้ทราบถึงวิธีการใช้วิตามินผิวขาว และเห็นถึงข้อดี-ข้อเสียของวิตามินทั้งสองแบบกันแล้วนะคะ และเรื่องถัดไปที่หมออยากจะแนะนำเพิ่มเติม คือ การทำ IV Drip หรือ การฉีดวิตามินผิว โดยหมอจะขอยกตัวอย่างจาก IV Drip สูตรยอดนิยมที่ให้ผลดีในเรื่องของการปรับสีผิวให้กระจ่างใสยิ่งขึ้น วิธีนี้ถือเป็นเคล็ดลับการปรับสีผิวของคนดังและดาราหลาย ๆ คนเลยค่ะ ถ้าใครอยากผิวขาวรีบมารวมกันตรงนี้เลยค่ะ!

วิตามินผิวขาว

Vitamin C Drip

การทำ IV Drip ด้วยสูตร Vitamin C Drip สามารถช่วยปรับให้ผิวขาวใสและลดความหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีส่วนผสมจากวิตามินซีที่เข้นข้น ซึ่งเป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ชั้นผิวของเราอิ่มน้ำและมีความหยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ใครที่มีปัญหาในเรื่องของสีผิวไม่เท่ากัน หมองคล้ำ และผิวแห้งกร้านเป็นขุย จะเหมาะกับการทำ IV Drip ด้วยสูตร Vitamin C Drip อย่างมากเลยค่ะ นอกจากจะช่วยในเรื่องของการปรับผิวให้ขาวแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อีกด้วยค่ะ ใครที่เป็นหวัดง่ายจึงเหมาะที่จะฉีดวิตามินซีให้กับร่างกายอย่างมากเลยค่ะ

  • ปรับผิวให้ขาวใสลดปัญหาผิวหมองคล้ำ
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
  • ฟื้นฟูร่างกาย ช่วยลดความอ่อนล้า

Vitamin Aura Drip

การทำ IV Drip ด้วยสูตร Vitamin Aura Drip มีความโดดเด่นในเรื่องของการปรับผิวให้กระจ่างใสอมชมพู ใครที่ต้องการบำรุงให้ผิวแลดูสุขภาพดี ถือว่าเหมาะกับสูตรนี้อย่างมากค่ะ ส่วนผสมหลักของ Aura Drip จะเน้นเป็นการเติมคอลลาเจนให้ผิว ด้วยคุณสมบัติของคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย จึงช่วยบำรุงทั้งในเรื่องของผิวพรรณ เส้นผม กระดูก และเล็บ ทำให้ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มีความหยืดหยุ่นขึ้น ริ้วรอยและปัญหาผิวต่าง ๆ จึงลดน้อยลง อีกทั้งยังสามารถช่วยชะลอความชราของร่างกายได้ดีอีกด้วยค่ะ ใครที่ไม่อยากแก่ Vitamin Aura Drip ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

  • ปรับสีผิวให้กระจ่างใสอมชมพู ลดปัญหาความหมองคล้ำ 
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย เช่น ลดรอยดำ รอยแดง 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน

ฉีดวิตามินผิว อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดวิตามินผิวสามารถอยู่ได้นาน 1-2 เดือนค่ะ โดยเราสามารถคงของสภาพผิวไว้ได้ด้วย การมาเติมวิตามินอาทิตย์ละครั้ง หรือ สองอาทิตย์ครั้ง เพื่อให้ภายในร่างกายของเรายังคงมีวิตามินที่บำรุงผิวอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่หลังครบระยะเวลา 2 เดือน ผิวจะไม่คล้ำขึ้นแต่กลับไปอยู่ในเฉดสีเดิมเหมือนช่วงก่อนฉีด ดังนั้นหากใครที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น จึงต้องหมั่นดูแลผิวด้วยการทากันแดดเป็นประจำ อย่าปล่อยให้ผิวไหม้แดด ดื่มน้ำให้เพียงพอ และไม่นอนดึกจนเกินไป และทางที่ดีควรหมั่นมาเติมวิตามินเป็นประจำค่ะ

ฉีดวิตามินผิวขาวที่ไหนดี?

สำหรับคนที่สนใจอยากจะฉีดวิตามินผิวขาว แต่ไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี หมออยากให้ทุกคนได้ลองมาทำความรู้จักกับ Amara Clinic หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยทราบว่าจริง ๆ แล้วที่ Amara นอกจากความโดดเด่นในด้านการดูดไขมัน-เติมไขมันแล้ว เรายังให้บริการในเรื่องของดูแลรักษาปัญหาผิวพรรณด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การทำเลเซอร์ การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบ และการฉีดวิตามินให้ผิว

พบแพทย์รักษาแผลแกะสิวจนเป็นแผลสด

ประเมินปัญหาแบบรายบุคคล โดยแพทย์ผิวหนัง

เรื่องของปัญหาผิว ถือเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนและต้องความใส่ใจอย่างมาก ซึ่งที่ Amara Clinic หมอจึงเน้นให้คำปรึกษาและประเมินปัญหาแบบ Case by case เพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุดที่สุด แม้ว่าการฉีดวิตามินผิวขาวด้วยวิธี IV Drip จะไม่ต้องผ่าตัดอะไร แต่หมอก็จะมีประเมินทั้งในเรื่องของสภาพผิว อาการแพ้ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคนไข้ เพื่อแนะนำสูตรวิตามินที่เหมาะสมกับร่างกายและความต้องการของคนไข่

วิตามินเข้มข้น ฉีดแล้วเห็นผลจริง

Amara Clinic เราเน้นในเรื่องของการใช้วิตามินที่มีคุณภาพสูงและมีความเข้มข้น ทำให้คนไข้ได้รับวิตามินที่ดีเมื่อร่างกายดูดไปใช้ จึงช่วยให้การซ่อมแซมของผิวหนังทำงานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ผลลัพธ์หลังทำจึงเป็นไปตามที่คาดหวัง โดยส่วนมากหลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้ว จะสัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวอย่างชัดเจน แต่หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ผิวจะมีความผ่องยิ่งตอนออกแดดจะยิ่งเห็นได้ถึงออร่าของผิวที่ดีขึ้น ในส่วนของการฉีดเข็มที่ 3 ขึ้นไป คนไข้จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ผิวจะมีความนุ่มลื่นและขาวสว่างอย่างชัดเจนค่ะ

ฉีดวิตามินผิวขาว เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้มีความขาวกระจ่างใสขึ้น
  • ผู้ที่ต้อกการลดความหมองคล้ำเร่งด่วน
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว
  • ผู้ที่อยากมีผิวขาวแต่ไม่ชอบการกินวิตามิน
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวต่าง ๆ เช่นผิวแห้งเสีย สีผิวไม่เท่ากัน ผิวหยาบกร้าน

ฉีดวิตามินผิวขาว อันตรายไหม? 

การฉีดวิตามินผิวหากอยู่ในความดูและของแพทย์และไม่ฉีดผิวบ่อยเกินไป จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อผิวหนังและสุขภาพ แต่หากใครที่ไปฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์และฉีดติดต่อกันบ่อยเกินไป จะส่งผลเสียให้แก่ร่างกายได้อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น 

  • ปัญหาผิวบางไวต่อแสง
  • ปวดศรีษะ อาเจียน 
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • ท้องเสีย ท้องผูก
  • สีผิวเปลี่ยนเป็นสีส้ม, เหลือง

เพื่อให้ทุกคนสวยแบบสุขภาพไม่เสีย หมอขอแนะนำเลือกฉีดกับแพทย์เท่านั้น และควรฉีดตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่ดครัดค่ะ

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดวิตามินผิว?

  • ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือคุณแม่ให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคตับหรือโรคไต
  • ผู้ที่มีภาวะธาตุเหล็กเกิน (Iron overload) เนื่องจากวินตามินซีจะทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กมากขึ้น ส่งผลต่อความสมดุลของแร่ธาตุ
  • ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD (G6PD Deficiency)

บทความที่เกี่ยวข้อง

คนอยากผิวใสต้องรู้!! กินคอลลาเจน ตอนไหนดีเห็นผลเร็ว!?

อ่านเพิ่มเติม

ลดรอยสิวเร่งด่วน รอยเยอะแค่ไหนก็เอาอยู่!

อ่านเพิ่มเติม

เปลี่ยนผิวโทรมเป็น ผิวใส ฉ่ำวาว ด้วยออร่าคอลลาเจน

อ่านเพิ่มเติม

สรุป

            สำหรับบทความนี้หมอหวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับวิตามินผิวขาว ให้กับทุกคนได้มากพอที่จะทำให้ทุกคนสามารถเลือกใช้วิตามินผิวขาว ได้อย่างเหมาะสมกับตัวเองยิ่งขึ้นนะคะ ซึ่งหากใครที่สนใจการฉีด IV Drip กับทาง Amara Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ จะนัดคิวเพื่อมาปรึกษาปัญหาผิวกับหมอก็ได้เช่นกันค่ะ โดยสามารถติดต่อได้ผ่าน LINE : @amaraskin


แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

พญ.ภคกมล ตุ้มสุทธิ (หมอตวง)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี!


    ใส่ความเห็น