การทำหัตถการเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวยด้วยการฉีดโบท็อก (Botox) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่อยากให้กรอบหน้าดูชัด ดูคม หรือลดเลือนริ้วรอยตามวัยให้น้อยลง แต่โบท็อกก็มีระยะเวลาคงอยู่อย่างจำกัด ทำให้ต้องมาฉีดซ้ำ ๆ บ่อยครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ให้เหมือนเดิมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกิดอาการ “ดื้อโบท็อก” ตามมาได้ค่ะ หลายคนก็อาจจะยังกลัวการฉีดโบท็อก เพราะมีโอกาสจะดื้อโบท็อก ฉีดโบท็อกไม่เห็นผลได้ แต่จริง ๆ แล้วอาการดื้อโบท็อกยังคงมีทางแก้ หากอยากทราบว่าดื้อโบท็อกรักษายังไง? ป้องกันการดื้อโบท็อกได้ไหม? ดื้อโบท็อกเกิดจากอะไร? มาดูกันเลยค่ะ! – หมอตวง แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง Amara Clinic
สำหรับคนที่ไม่ทราบมาก่อน โบท็อก หรือ Botulinum Toxin (Botox) เป็นสารคลายกล้ามเนื้อที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ เป็นอัมพาต เพื่อรักษาริ้วรอยร่องลึก เพิ่มความเต่งตึงให้ผิวหน้า กระชับผิว ลดกราม ลดปีกจมูก ลดความเครียด ไปจนถึงลดกลิ่นตัว โดยจะมีผลแค่ชั่วคราว ด้วยฤทธิ์ที่ไม่ถาวรนี้ทำให้คนที่ฉีดต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผิวเอาไว้ และด้วยเพราะเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายเหมือนพิษ ภูมิคุ้มกันในตัวเราจึงทำการสร้างแอนติบอดี้ (Anti-Body) ขึ้นมา เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมนั้น เป็นอาการ “ดื้อโบท็อก” นั่นเองค่ะ โดยการที่ร่างกายเราจะดื้อโบท็อกนั้นก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
-
ฉีดโบท็อกบ่อยเกินไป
หากเราฉีดโบท็อกบ่อยมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเราเริ่มจำได้ว่าโบท็อกเป็นสิ่งแปลกปลอม และโต้ตอบพิษด้วยการสร้างแอนติบอดี้ ทำให้ดื้อโบท็อกในช่วงหลัง ๆ ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล แม้จะถึงเวลาที่ควรออกฤทธิ์แล้วก็ตาม
-
ฉีดโบท็อกปริมาณมากเกินไป
เมื่อเราฉีดโบท็อกปริมาณมากในครั้งเดียว จะทำให้โบท็อกยังคงตกค้างอยู่ในร่างกายมาก และร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้ออกมาเพื่อกำจัดสารนี้ ทำให้ร่างกายดื้อโบท็อกในครั้งต่อไป ดังนั้น การฉีดโบท็อกครั้งละเยอะ ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำค่ะ ควรฉีดในปริมาณที่พอเหมาะกับมัดกล้ามเนื้อแต่ละบริเวณเท่านั้น
-
ฉีดโบท็อกที่ไม่มีคุณภาพหรือเป็นของปลอม
เวลาเราฉีดโบท็อกที่ไหน บางครั้งก็ไม่ได้เช็กหรือสอบถามอย่างละเอียดว่าโบท็อกที่แพทย์นำมาฉีดให้เป็นโบท็อกอะไร แท้หรือเปล่า หากตัวโบท็อกมีการปนเปื้อน ก็จะทำให้ร่างกายยังปล่อยให้ออกฤทธิ์ได้ในครั้งแรกเพราะยังไม่สามารถจำได้ว่าเป็นสารแปลกปลอมหรือไม่ แต่เมื่อไปฉีดซ้ำสอง ร่างกายจะระงับการทำงานทันทีเพราะจำได้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้ดื้อโบท็อกแบบงง ๆ ไปเลยค่ะ
กร็ดความรู้ : โบท็อกแท้ ดูยังไง? เช็กให้ดีก่อนฉีด
- โบท็อกแต่ละกล่องจะมีพลาสติกซีลปิดไว้ที่ปากกล่อง
- ยูนิตต่อขวดในแต่ละยี่ห้อมีปริมาณสูงสุดไม่เท่ากัน เช็กให้ดีว่ายี่ห้อนั้น ๆ มีปริมาณเท่าไหร่บ้าง
- ทุกกล่องจะมีเลข Lot การผลิต ตรวจว่าเลขบนกล่องกับขวดโบท็อกตรงกันหรือไม่
- โบท็อกมักจะอยู่ที่ก้นขวดและมีความหนืด ต้องใช้น้ำเกลือช่วยดึงโบท็อกเข้าหลอดฉีด หากไม่มีการใช้น้ำเกลือร่วมด้วย อาจเป็นโบท็อกปลอม
สำหรับคนที่ไม่ทราบมาก่อน โบท็อก หรือ Botulinum Toxin (Botox) เป็นสารคลายกล้ามเนื้อที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ เป็นอัมพาต เพื่อรักษาริ้วรอยร่องลึก เพิ่มความเต่งตึงให้ผิวหน้า กระชับผิว ลดกราม ลดปีกจมูก ลดความเครียด ไปจนถึงลดกลิ่นตัว โดยจะมีผลแค่ชั่วคราว ด้วยฤทธิ์ที่ไม่ถาวรนี้ทำให้คนที่ฉีดต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผิวเอาไว้ และด้วยเพราะเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายเหมือนพิษ ภูมิคุ้มกันในตัวเราจึงทำการสร้างแอนติบอดี้ (Anti-Body) ขึ้นมา เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมนั้น เป็นอาการ “ดื้อโบท็อก” นั่นเองค่ะ โดยการที่ร่างกายเราจะดื้อโบท็อกนั้นก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
-
ฉีดโบท็อกบ่อยเกินไป
หากเราฉีดโบท็อกบ่อยมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเราเริ่มจำได้ว่าโบท็อกเป็นสิ่งแปลกปลอม และโต้ตอบพิษด้วยการสร้างแอนติบอดี้ ทำให้ดื้อโบท็อกในช่วงหลัง ๆ ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล แม้จะถึงเวลาที่ควรออกฤทธิ์แล้วก็ตาม
-
ฉีดโบท็อกปริมาณมากเกินไป
เมื่อเราฉีดโบท็อกปริมาณมากในครั้งเดียว จะทำให้โบท็อกยังคงตกค้างอยู่ในร่างกายมาก และร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้ออกมาเพื่อกำจัดสารนี้ ทำให้ร่างกายดื้อโบท็อกในครั้งต่อไป ดังนั้น การฉีดโบท็อกครั้งละเยอะ ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำค่ะ ควรฉีดในปริมาณที่พอเหมาะกับมัดกล้ามเนื้อแต่ละบริเวณเท่านั้น
-
ฉีดโบท็อกที่ไม่มีคุณภาพหรือเป็นของปลอม
เวลาเราฉีดโบท็อกที่ไหน บางครั้งก็ไม่ได้เช็กหรือสอบถามอย่างละเอียดว่าโบท็อกที่แพทย์นำมาฉีดให้เป็นโบท็อกอะไร แท้หรือเปล่า หากตัวโบท็อกมีการปนเปื้อน ก็จะทำให้ร่างกายยังปล่อยให้ออกฤทธิ์ได้ในครั้งแรกเพราะยังไม่สามารถจำได้ว่าเป็นสารแปลกปลอมหรือไม่ แต่เมื่อไปฉีดซ้ำสอง ร่างกายจะระงับการทำงานทันทีเพราะจำได้ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้ดื้อโบท็อกแบบงง ๆ ไปเลยค่ะ
ดื้อโบท็อก ส่งผลอย่างไร อันตรายไหม?
การดื้อโบท็อกไม่ได้ส่งผลอันตรายอะไรต่อร่างกายค่ะ แต่จะมีผลในเรื่องของความสิ้นเปลืองมากกว่าค่ะ ในบางเคสอาจจะฉีดโบท็อกในปริมาณเท่าเดิมไม่ได้ผล ก็ต้องมาฉีดในปริมาณที่มากขึ้น และมาฉีดบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนสุดท้ายก็ต้องดื้อโบท็อกรุนแรงขึ้นอยู่ดี ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ เมื่อเราดื้อโบท็อกไปแล้ว หากโชคร้ายเป็นโรคที่ต้องรักษาด้วยโบท็อกหรือยารักษาโรคชนิดอื่น ๆ ที่จัดอยู่ในชนิดเดียวกัน ก็จะไม่สามารถรักษาได้ เพราะฉีดโบท็อกไม่เห็นผล หน้าไม่เรียวเล็ก ไม่กระชับ ผิวยังคงมีริ้วรอยเหมือนเดิม
ดื้อโบท็อกไปแล้ว แก้ได้ไหม? กลับมาฉีดโบท็อกได้หรือเปล่า?
จริง ๆ อาการดื้อโบท็อกไม่ได้มีทางรักษาให้หายขาดได้ค่ะ ไม่ว่าจะปรับปริมาณให้มากขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าจะช่วยให้หายดื้อโบท็อก รังแต่จะทำให้เรายิ่งมีอาการดื้อโบท็อกรุนแรงขึ้นไปอีก เช่นเดียวกับการเปลี่ยนยี่ห้อโบท็อก เพราะโดยพื้นฐานแล้วก็คือตัวยา Botulinum Toxin เหมือนกัน จะเป็นการเสียเงินและเวลาไปเปล่า ๆ นะคะ หากดื้อโบท็อก เราสามารถปล่อยให้ภูมิคุ้มกันของเราหายไปเองในเวลา 2-5 ปีค่ะ เพราะหากเป็นโบท็อกแท้จะสามารถสลายตัวไปได้เองโดยไม่มีสารตกค้าง หากกลับมาฉีดใหม่ก็มีโอกาสที่จะไม่ดื้อโบท็อกแล้วค่ะ
ไม่อยากฉีดโบท็อก? กลัวดื้อโบท็อก ทำ Ultraformer III แทนได้!
Ultraformer III เครื่องมือพลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์เข้มข้น เพื่อการยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย เพื่อผิวอ่อนเยาว์เต่งตึง ไม่ต้องเปิดแผล ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ฉีด ไม่พักฟื้น! เหมาะกับคนที่ไม่อยากฉีดโบท็อก หรือดื้อโบท็อกมาแต่อยากเก็บกรอบหน้าเพิ่ม
วิธีป้องกันอาการดื้อโบท็อก ถ้าจะฉีด วิธีไหนลดความเสี่ยงได้บ้าง?
การฉีดโบท็อกนั้น ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดนะคะ เพียงแต่การฉีดบ่อยหรือมากเกินไปจะทำให้ดื้อโบท็อกเอาง่าย ๆ ได้ ทว่าการฉีดโบท็อกก็ยังมีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ เคสที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่คม อยากให้หน้าเรียว แต่ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายราคาแพงเท่าการทำด้วยเครื่องมือทางหัตถการ ก็สามารถเลือกใช้โบท็อกได้ เพียงแต่ต้องระมัดระวังในการใช้ ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือการลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การดื้อโบท็อกได้เร็วขึ้น โดยสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ค่ะ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตและใบรับรองที่ถูกต้อง ห้องหัตถการสะอาด มีเครื่องมือครบครัน และตัวโบท็อกราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกจนน่าสงสัย
- เลือกโบท็อกที่เป็นของแท้ สามารถขอเช็กรายละเอียดของตัวโบท็อกตั้งแต่ยังไม่เปิดกล่องได้ยิ่งดีค่ะ เราจะได้ตรวจสอบว่าเป็นของปลอมหรือเปล่า ดีกว่าให้เอาสารอะไรไม่รู้มาฉีดหน้านะคะ
- เลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น เพราะจะได้ทั้งความแม่นยำและความปลอดภัยมากกว่า หากแพทย์มีประสบการณ์สูง ก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี
- เว้นระยะการฉีดโบท็อกอย่างน้อย 4 เดือน แล้วค่อยฉีดโบท็อกครั้งถัดไป เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อโบท็อก ฉีดโบท็อกไม่เห็นผลเพราะฉีดโบท็อกบ่อยเกินไปค่ะ
- ระวังปริมาณที่จะเลือกฉีด กล้ามเนื้อแต่ละส่วนใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมือนกัน ดื้อโบท็อกแน่นอนค่ะถ้าฝืนฉีดปริมาณเกินกำหนดที่ควรจะฉีด
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
หวังว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่มีแผนจะฉีดโบท็อก ฉีดโบท็อกไม่เห็นผลหรือดื้อโบท็อกอยู่ จะได้ความรู้เกี่ยวกับอาการดื้อโบท็อกกันนะคะ ก่อนจะเลือกที่ฉีด ก็ควรจะเลือกตั้งแต่สถานที่ แพทย์ ไปจนถึงตัวโบท็อก เพราะทุกอย่างล้วนมีผลต่อร่างกายของเรา จะดื้อโบท็อกหรือไม่ดื้อโบท็อกก็อยู่ที่การพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนของเรา แต่ถ้าไม่มั่นใจหรืออยากลองปรึกษาปัญหาริ้วรอย หน้าไม่กระชับ สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ Amara Clinic ฟรี! เช่นเคยค่ะ