คู่รักคู่แค้นอย่าง Morpheus8 กับ Ulthera เป็นสองหัตถการที่สาว ๆ มักจะเอามาถามหมออยู่ตลอดเลยค่ะ แต่เผอิญว่าเจ้า Morpheus8 กับ Ulthera เนี่ยมันมีความแตกต่างทางคุณสมบัติอยู่ค่ะ หากต้องการทราบว่าระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera เลือกอันไหนดีกว่า? ต้องอ่านบทความนี้เลย! – หมอตวง แพทย์ผิวหนังเฉพาะทางประจำ Amara Skin Center (Amara Clinic)
Morpheus8 กับ Ulthera ต่างกันยังไงบ้าง?
หากดูข้อมูลลึก ๆ แล้ว เจ้าเครื่อง Morpheus8 กับ Ulthera แทบจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยค่ะ เพราะมันมีความแตกต่างตั้งแต่การทำงานของเครื่องแล้ว และยิ่งมีปัจจัยอื่น ๆ ด้วยก็ยิ่งทำให้เจ้าสองเครื่องนี้ให้ผลลัพธ์ต่างกัน จะมีปัจจัยอะไรบ้าง? มาดูกันเลยค่ะ
-
หลักการทำงานของตัวเครื่อง
Ulthera (หรือ Ultratherapy) คือเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงหรืออัลตราซาวด์ สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังระดับลึกได้ตั้งแต่ 1.5mm – 4.5mm มักนิยมทำกันทั้งบริเวณรอบดวงตา ยกกระชับคิ้ว ลำคอ หรือกรอบหน้าค่ะ Ulthera จะส่งพลังงานไปในชั้นผิว SMAS หรือชั้นกล้ามเนื้อบนสุดของผิว ทำให้กล้ามเนื้อกลับมากระชับมากขึ้น
Morpheus8 คือเครื่องแก้ผิวยับย่นที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุ สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้ตั้งแต่ 0.5mm – 5mm ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว (ลงลึกได้ถึง 8mm สำหรับลำตัว) นิยมทำกันทั้งสองแบบ โดย Morpheus8 จะทำงานผ่านเข็มขนาดเล็ก (Microneedling) ส่งพลังงานเข้าไปกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง
ความแตกต่างของหลักการทำงานระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera นั้นส่งผลให้คุณสมบัติในการรักษาปัญหาผิวนั้นแตกต่างกัน หมอจะอธิบายในหัวข้อถัดไปเลยค่ะ
-
การจัดการปัญหาผิว
จะเห็นว่า Ulthera ช่วยในเรื่องของการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าเสียมากกว่าค่ะ เนื่องจากมันสามารถลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อในโครงสร้างผิวของเราได้ ในขณะเดียวกัน Morpheus8 จะเน้นการฟื้นฟูผิวเสียมากกว่า ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนของตัวเอง ผลลัพธ์หลังทำก็จะได้รักษารอยยับย่น ริ้วรอย และความเรียบเนียนของผิว
ทั้งนี้ ด้วยคุณสมบัติการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ Morpheus8 จึงมีผลให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้นในระดับหนึ่งค่ะ เพราะคอลลาเจนก็เป็นส่วนสำคัญของผิวที่เหี่ยว มีริ้วรอย ไม่กระชับ เพราะฉะนั้นระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera เจ้าเครื่อง Morpheus8 จะช่วยเรื่องปัญหาผิวหลากหลายกว่าค่ะ แต่ถ้าเราเน้นยกกระชับใบหน้า ก็อาจจะเลือกเป็น Ulthera แทน
-
ระดับความเจ็บ
จากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง บวกกับประสบการณ์ตรงของหมอเอง คิดว่าเจ้าเครื่อง Morpheus8 เจ็บกว่าแน่นอนค่ะ เพราะมันเป็นการจิ้มเข็มเข้าไปในผิว เลยอาจจะทำให้มีโอกาสเจ็บกว่าค่ะ อันนี้หมอขอบอกตรง ๆ ว่าถ้ายิ่งทำลึกก็ยิ่งเจ็บ แต่สำหรับคนที่เคยทำหัตถการอื่น ๆ มาก่อนก็ไม่ได้ต่างกันมากค่ะ
สำหรับ Ulthera เนื่องจากเป็นพลังงานคลื่นเสียงเท่านั้น ไม่ต้องมีอะไรจิ้มเข้าไปในผิว ระดับความเจ็บจึงอยู่ในระดับทั่วไปเมื่อเทียบกับ Morpheus8 ค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ระดับความเจ็บมักขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคนด้วย ถ้าเคยทำหัตถการกับผิวหน้ามาบ่อย ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยเจ็บถึงไม่เจ็บเลยก็ได้นะคะ
-
ช่วงเวลาที่ต้องพักหน้า
สำหรับคนที่ผิวมีความแข็งแรงปกติ Ulthera หลังทำจะมีความบวมประมาณ 2-3 วันค่ะ แต่ถ้าผิวสาว ๆ ค่อนข้างบอบบางหรือบวมช้ำง่าย ก็จะกินเวลามากขึ้นเป็น 1-2 สัปดาห์ และอาจมีความรู้สึกหน่วง ๆ ที่ชั้นกล้ามเนื้อร่วมด้วย แต่ไม่ได้เป็นอันตรายค่ะ นอกเสียจากว่าพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้วยังไม่หาย แสดงว่าผิดปกติแล้ว ต้องไปพบแพทย์นะคะ
ส่วน Morpheus8 หลังทำจะมีความรู้สึกยิบ ๆ ที่ผิว มีอาการบวมแดง และมีจุดเลือดออกบ้าง หากเลือกทำระดับที่ค่อนข้างลึก ผิวสามารถหายแดงได้เองภายในหนึ่งวัน แต่จะยังทิ้งอาการบวมไปอีก 1-3 สัปดาห์ หากสาว ๆ คนไหนที่ไปทำมาแล้วมีสะเก็ดจะสามารถหลุดออกเองภายใน 3 วันค่ะ
จะเห็นว่าตัว Morpheus8 จะไม่สามารถแต่งหน้าหรือล้างหน้าได้หลังทำ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นต้องบำรุงและทางขี้ผึ้งเคลือบผิว นอกจากนั้น จะมีการดูแลหลังทำเหมือนตัว Ulthera คือ ต้องทากันแดด SPF สูงแบบห้ามขาด ไม่รุนแรงกับผิวหน้า เลี่ยงแดดจัดหรือความร้อน 2 สัปดาห์ และไม่ควรทำหัตถการตัวอื่นซ้ำในช่วง 1 เดือนค่ะ
-
ระยะเวลาเห็นผล
Ulthera จะเห็นผลได้ทันทีอย่างน้อย 30% หลังทำค่ะ และจะเริ่มเห็นความกระชับมากขึ้นอีกเรื่อย ๆ ใน 1-2 เดือน ระยะเห็นผลที่ชัดเจนที่สุดของ Ulthera คือ 3 เดือนขึ้นไปค่ะ ส่วนตัว Morpheus8 จะเห็นผลชัดเจนใน 3 สัปดาห์ เต็มที่ที่สุดคือช่วง 3 เดือนขึ้นไปเช่นกันค่ะ
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของ Ulthera จะคงอยู่ได้ราว ๆ 6 เดือนถึง 2 ปีค่ะ ส่วนใหญ่หมอจะแนะนำให้มาทำซ้ำอย่างน้อยปีละครั้ง ในขณะที่ Morpheus8 ผลลัพธ์การทำหนึ่งครั้งจะอยู่ได้นานสูงสุด 1-3 ปีขึ้นไป ทว่าระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ทั้ง Ulthera และ Morpheus8 ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วยค่ะ
-
ราคาในภาพรวม
การทำ Morpheus8 ราคาจะอยู่ที่ 30,000-90,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่คลินิกและโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ไม่จำกัดช็อต ไม่จำกัดจำนวนยิง เลือกได้ทั่วใบหน้า ลำคอ หรือแบบลำตัวก็มี (ราคาจะสูงกว่าใบหน้า) ส่วน Ulthera ราคาจะอยู่ที่ 15,000-100,000 บาทขึ้นไปขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่เลือกค่ะ
ทุกคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าราคาของการทำหัตถการนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานเครื่องมือค่ะ แต่ละเครื่องจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน Morpheus8 จะมีหัวเข็มที่เปิดใช้แค่ 1 หัวต่อ 1 ครั้งก็จริง แต่สามารถใช้ได้ไม่จำกัดช็อตเนื่องจากเป็นเข็มที่ส่งพลังงานเท่านั้น ใช้ได้ทั่วทั้งหน้าและคอ ยิงย้ำได้เลย ในขณะเดียวกัน หัวยิงของ Ulthera จะมีการจำกัดจำนวนไลน์ (Line) ถ้ายิงเกินกว่าที่จำกัดไว้ก็จะไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก
ตือนภัย! เห็น Morpheus8 กับ Ulthera ราคาถูก อย่าหลงเชื่อ!
เห็นกันเยอะมาก ๆ กับ Morpheus8 ราคาถูก Ulthera ราคาดี ๆ หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ตั้งโปรถูกมากจนคนแห่กันไปจองคิว ตามด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อให้คนสนใจ ยกตัวอย่างเช่น จัดโปรโมชั่นเหมา Ulthera แบบบุฟเฟ่ต์ ไม่จำกัดช็อต, ฉีดหน้าใสจบเพียง 99.-, ทำ Morpheus8 1,999 เป็นต้น ถ้าเจอถูกขนาดนี้ ขอเตือนว่าอย่าเชื่อเด็ดขาดค่ะ!
ทุกอุปกรณ์ล้วนมีราคาของมันเองทั้งนั้น ไม่มีทางที่จะนำมาทำให้ในราคานี้แน่นอน! เครื่องมือทางหัตถการบางตัวหัวยิงหัวเดียวราคาครึ่งแสน แต่มาขายแค่สองหมื่นก็มี (แบบนี้อาจจะใช้หัวยิงปลอม ไม่ใช่ของแท้) หากรู้สึกว่าราคามันถูกกว่าราคาตลาดมากเกินไป อย่าเสี่ยงไปทำเพราะเห็นว่ามันถูกเลยค่ะ พวกฉีดผิว ดริปผิว หัตถการเล็ก ๆ ก็เหมือนกัน บางครั้งแฝงตัวมาเป็นโปรโมชั่น ความจริงเอาอะไรมาทำหน้าให้เราก็ไม่รู้เลยค่ะ
“เสียค่าทำหน้า 99 แต่ค่ารักษา 190,000 ก็ไม่เอา!”
ตกลง Morpheus8 กับ Ulthera อันไหนดีกว่า?
ได้ลองอ่านข้อแตกต่างระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera มาแล้วก็พอจะเห็นภาพกันใช่มั้ยคะว่าจะเลือกอะไรดี แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการทำตัวไหน หมอจะมาสรุปความต่างระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera อีกรอบกันค่ะ
Ulthera จะเหมาะกับคนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีลักษณะกล้ามเนื้อหย่อนยานค่ะ ไม่ได้เน้นเรื่องผิวมาก แต่ต้องการการยกกระชับใบหน้าอย่างชัดเจนที่สุด ทำหนึ่งครั้งก็สามารถอยู่ได้ยาวนานเป็นปีถ้าดูแลตัวเองดี นอกจากนี้ก็ยังช่วยปรับรูปหน้าให้มีความเรียวสวย กรอบหน้าชัดขึ้น ลดร่องแก้ม แก้มหย่อนคล้อยได้
Morpheus8 จะเหมาะกับคนที่ผิวมีรอยยับย่น ผิวเหี่ยว ต้องการกระชับผิวให้เรียบเนียน เต่งตึงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เรื่องงานผิวหลากหลาย ตั้งแต่รอยหลุมสิว กระชับรูขุมขน ลดรอยแตกลาย รอยแผลเป็นจากสิว ริ้วรอยร่องแก้มหรือหางตา เน้นเรื่องงานผิวฟูอิ่ม
สรุปก็คือถ้าสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ต้องการเน้นยกกระชับความหย่อนคล้อยให้เลือก Ulthera แต่ถ้าอยากได้เรื่องงานผิว+กระชับด้วยให้เลือก Morpheus8 เพราะนอกจากจะช่วยยกกระชับแล้วมันยังแก้ปัญหาผิวได้ครอบคลุมกว่า Ulthera ค่ะ ทั้งนี้ เราก็ควรเลือกทำหัตถการที่สะดวก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของเราด้วยนะคะ หากไม่แน่ใจจริง ๆ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการรักษาต่อไปค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Morpheus8 ส่งตรงจากหมอตวง
ระหว่างทำเป็นไงบ้าง? มาดูกันค่ะ!
เลือกทำ Morpheus8 กับ Ulthera ทั้งคู่ไปเลยดีไหม?
หากเลือกทำทั้ง Morpheus8 กับ Ulthera ควบคู่กันไปได้ หมอก็แนะนำเลยค่ะว่าดี! พราะเจ้าสองเครื่องนี้มีประโยชน์กับผิวเราเยอะมาก ๆ ไม่ต้องนอนพักฟื้น ให้ผลลัพธ์ยาวนานเป็นปีต่อการทำแค่ครั้งเดียว ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ไม่ต้องไปทำบ่อยด้วยค่ะ
สำหรับคนที่ผิวเหี่ยวยับย่น ผิวไม่เรียบเนียนและมีความหย่อนคล้อยหนักมาก ก็อาจจะเลือกทำ Morpheus8 กับ Ulthera ร่วมกันไปเลย แต่ถ้าเรามีปัญหาผิวเยอะ หน้าหย่อนคล้อยปานกลาง ก็อาจจะเลือกทำ Morpheus8 แค่อย่างเดียวก็ได้สำหรับคนที่งบน้อย แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องงบก็จัดทั้ง Morpheus8 กับ Ulthera ไปเลยค่ะ เพื่อผิวสวยกระชับเด้ง เรามันเลือดนักสู้อยู่แล้วค่ะ!
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การเลือกทำหัตถการระหว่าง Morpheus8 กับ Ulthera สองตัวนี้มีความแตกต่างกันอยู่มากจึงไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันตรง ๆ ได้ค่ะ เราจึงจะต้องตัดสินจากปัญหาของเราก่อนว่าต้องการแก้อะไร ปรับตรงไหน แล้วค่อยเลือกวิธีแก้ปัญหากันต่อไป หากสาว ๆ หนุ่ม ๆ คนไหนไม่แน่ใจว่าปัญหาผิวของตัวเองต้องเริ่มจากตัวไหนก่อน สามารถจองคิวปรึกษาหมอได้ตามช่องทางด้านล่างนะคะ ปรึกษาฟรีทุกเคสเช่นเคยค่ะ