การดูแลผิวนับเป็นเรื่องที่สมัยนี้ขาดไม่ได้กันเลยทีเดียว ‘สกินแคร์’ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มักจะถูกพูดถึงกันอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลเกี่ยวกับสกินแคร์บางตัวก็กลายเป็นความรู้พื้นฐาน บางตัวก็เป็นแค่เทรนด์ช่วงสั้น ๆ คำถามที่ว่าเราต้องใช้สกินแคร์ตัวไหนถึงจะดีจึงมีอยู่ตลอด เป็นที่มาของบทความในวันนี้เพื่อที่หมอตวง Amara Skin Center จะพามาทำความรู้จักว่าสกินแคร์คืออะไร!?
สกินแคร์ คืออะไร?
สกินแคร์ (Skin Care) คือ ขั้นตอนกระบวนการหลายอย่างเพื่อการดูแลผิวให้มีสุขภาพที่ดีสำหรับผิวทั่วเรือนร่าง ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ การใช้งานผลิตภัณฑ์ และเทคนิคต่าง ๆ ที่จะผนวกขั้นตอนรวมกันให้ไปผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากที่สุด
ส่วนสกินแคร์ (Skincare) คือ ตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของขั้นตอนการดูแลผิวของเราค่ะ สกินแคร์นั้นมีหลากหลายประเภท มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน
ประโยชน์ของสกินแคร์
สกินแคร์คือผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในการคงสภาพของผิวให้มีสุขภาพที่ดีที่สุดในระยะยาวค่ะ หากสกินแคร์นั้น ๆ สามารถทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้นและไม่มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาในภายหลังก็นับว่าเป็นสกินแคร์ที่ดีแล้วค่ะ
แต่ใช่ว่าจะมีคนที่ไม่มีปัญหาผิวเลยเยอะขนาดนั้น เนื่องด้วยปัจจัยต่าง ๆ อย่างมลภาวะ ฮอร์โมน พันธุกรรม การใช้ชีวิต หรืออายุ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ยาก สกินแคร์จึงเป็นสิ่งที่คนมองหาเพื่อฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีขึ้นมากกว่า แล้วแต่ปัญหาที่คน ๆ นั้นต้องการแก้
สกินแคร์พื้นฐาน ต้องมีอะไรบ้าง?
ก่อนที่เราจะเลือกสกินแคร์มาใช้ เราก็ต้องทราบก่อนนะคะว่าสกินแคร์พื้นฐานต้องมีอะไรประกอบบ้าง? หลายคนอาจจะเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้วว่ามันมีเทรนด์บางอย่างที่ให้ลงสกินแคร์หลาย ๆ ตัว ให้เน้นใช้สกินแคร์เป็นสิบ ๆ อย่าง หมอต้องบอกว่ามันก็ทำได้ค่ะ แต่หากเราพึ่งเริ่มใช้สกินแคร์ คือ..อย่าทำดีกว่าค่ะ
ผิวของเราโดยเฉพาะผิวหน้านั้นไม่สามารถรองรับสกินแคร์หลายสิบตัวได้เหมือนกันหมดค่ะ สกินแคร์คือสินค้าที่แค่ส่วนผสมไม่เหมือนกันแล้ว บางคนผิวบาง บางคนผิวแพ้ง่าย บางคนใช้แล้วดี บางคนใช้แล้วไม่ดี เพราะฉะนั้น อย่าเลือกสกินแคร์ตามคนอื่นทุกตัว เริ่มด้วยสกินแคร์พื้นฐานที่ควรจะมีก่อนค่ะ
จริง ๆ แล้วสกินแคร์พื้นฐานนั้นไม่ได้มีกำหนดตายตัว แต่ให้ยึด 3 ขั้นตอนนี้เอาไว้ก็พอค่ะ ได้แก่ การทำความสะอาด การบำรุง และการป้องกัน เป็นขั้นตอนสกินแคร์พื้นฐานที่เพียงพอต่อความต้องการ แต่จะมีสกินแคร์ผลิตภัณฑ์แบบไหนบ้าง มาดูกันในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ
ประเภทของสกินแคร์ผิวหน้าพื้นฐาน
หากเราเป็นคนที่มีปัญหาผิวแม้แค่เพียงอย่างเดียว ก็กระทบต่อการเลือกสกินแคร์พื้นฐานเพื่อรักษาปัญหาผิวเหล่านั้นได้แล้วค่ะ เพราะจุดประสงค์ในการดูแลผิวของสกินแคร์คือความต่างที่หลากหลาย สกินแคร์ตัวนี้รักษาผิวแบบนี้ สกินแคร์ตัวนี้ดูแลผิวแบบนั้น ต่างผิวต่างสกินแคร์ คือสิ่งต้องจำ!
มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) |
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้ บางตัวช่วยให้ผิวแข็งแรงและเสริมเกราะป้องกันผิวด้วย |
คลีนเซอร์ (Cleanser) |
ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิว เป็นสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้เช่นกัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้า ทากันแดดปกติ ไม่ได้เป็นคนอุดตันง่าย ใช้ตัวนี้ก็เพียงพอ |
กันแดด (Sunscreen) |
ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดหรือรังสียูวีที่จะทำร้ายผิว เป็นสกินแคร์ตัวสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวแบบไหนก็ต้องใช้กันแดดเสมอ |
คลีนซิ่ง (Cleansing) |
เป็นตัวทำความสะอาดผิวสำหรับคนที่แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางค่ะ แต่ทั้งนี้ คนที่ทากันแดดแบบกันน้ำกันเหงื่อก็ควรมี เพราะการล้างหน้าปกติอาจจะชำระล้างเนื้อกันแดดไม่เพียงพอค่ะ |
โทนเนอร์ (Toner) |
ใช้หลังล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เสร็จ ช่วยเปิดผิวให้พร้อมรับการบำรุง สำหรับคนที่ต้องการความสะอาดเพื่อบำรุงผิวอย่างเต็มที่ |
ผลัดเซลล์ผิว (Exfoliator) |
ผิวเราสร้างเซลล์ใหม่อยู่ตลอด หากมีตัวนี้จะช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวทำงานได้ดี กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกได้ง่าย ช่วยลดหน้าหมองคล้ำ สกินแคร์ซึมยาก มักจะมาในรูปแบบครีมทาผิวแบบข้ามคืน |
ครีมบำรุงใต้ตา (Eye cream) |
สำหรับดูแลผิวบริเวณใต้ตาที่บอบบางกว่าผิวหน้าส่วนอื่น มักมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอย รอยคล้ำใต้ตาได้โดยไม่ทำร้ายผิวใต้ตา |
ทรีตเมนต์ (Treatment) |
มักมีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาผิวบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น รอยดำรอยแดง ผิวอักเสบ สิวผดผื่น สลายสิวอุดตัน เป็นต้น มีเนื้อหลากหลายแบบ |
มาส์กหน้า (Face mask) |
มีทั้งแบบแผ่น แบบทาทิ้งไว้ข้ามคืน หรือทาทิ้งไว้ในระยะเวลาหนึ่งแล้วล้างออก เหมาะกับคนที่อยากได้รับการบำรุงเพิ่ม |
ประเภทของสกินแคร์ผิวกายพื้นฐาน
หลายคนมักจะเข้าใจผิวกายแข็งแรงกว่าผิวหน้า จึงคิดว่าสกินแคร์ผิวกายไม่ได้สำคัญเท่าสกินแคร์ผิวหน้า ซึ่งมันไม่จริงค่ะ! สกินแคร์คือสิ่งสำคัญสำหรับผิวกายเช่นกัน! ความแข็งแรงของผิวเพียงแค่ทำให้การดูแลและขั้นตอนต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น!!
กันแดด (Sunscreen) |
ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เป็นสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้ ผิวกายต้องโดนแดดทุกวัน และเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังหากออกแดดจัดบ่อย ๆ |
ครีมอาบน้ำ (Bath&Shower) |
เป็นคลีนเซอร์ที่จะช่วยทำความสะอาดผิว มีหลากหลายรูปแบบ บางชนิดมีสารบำรุงผิวผสมอยู่ด้วย |
บำรุงผิวกาย (Body Care) |
เน้นการบำรุงผิวกายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นโดยเฉพาะ แต่ก็มีคุณสมบัติอื่น ๆ แตกต่างกันไป มีทั้งเนื้อโลชั่น เนื้อเซรั่ม เนื้อออยล์ หรือบัตเตอร์ครีม |
แฮนด์ครีม (Hand Cream) |
เป็นสกินแคร์ดูแลผิวมือโดยเฉพาะ เนื่องจากมือมักจะต้องสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มากที่สุด บางตัวจะช่วยป้องกันผิวมือจากปัจจัยภายนอกได้ |
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) |
อีกหนึ่งตัวบำรุงผิวที่สำคัญมาก ผิวใต้วงแขนที่หมักหมมจากสิ่งสกปรกหรือแค่เหงื่อออกเยอะก็ทำให้มีกลิ่นตัว จึงต้องมีสกินแคร์ตัวนี้เข้ามาช่วยระงับกลิ่นและบำรุงผิวไปด้วย |
ผลัดเซลล์ผิว (Exfoliate) |
ต่างจากสกินแคร์ผิวหน้าคือ มักจะมาในรูปแบบสครับ (Scrub) ใช้ขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกโดยตรง ค่อนข้างรุนแรงกว่าครีมผลัดเซลล์ผิว จึงไม่เหมาะนำมาใช้ขัดหน้า |
มาส์กตัว (Body mask) |
สำหรับคนที่ต้องการการทำบำรุงอย่างมาก แต่ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น หากไม่มีเวลาสามารถตัดออกได้ |
เคล็ดไม่ลับ! ใช้สกินแคร์ยังไงให้เห็นผลและคุ้มค่า
บางคนสามารถเลือกสกินแคร์พื้นฐานของตัวเองได้แล้ว แต่ก็อาจจะยังสงสัยว่าแล้ววิธีใช้ให้ออกมาเห็นผลและคุ้มค่ากับความทุ่มเทของเราของสกินแคร์คืออะไร! เพราะฉะนั้น หมอจึงนำเคล็ดไม่ลับในการใช้สกินแคร์อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกันด้วย!
-
ทากันแดดทุกวัน!
เราจะต้องเจอกับรังสียูวีอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะอยู่ในบ้านก็ตาม ซึ่งรังสียูวีหรือแสงแดดนั้นเป็นตัวการทำร้ายผิวหลายอย่าง การทากันแดดทุกวันจึงเป็นเรื่องที่ห้ามบกพร่องโดยเด็ดขาดค่ะ!
-
อย่าใช้สกินแคร์หลายตัวเกินไป
โดยเฉพาะสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน เช่น ผลัดเซลล์ผิวเหมือนกันอาจจะทำให้ระคายเคือง ผิวบาง เป็นต้น เน้นความน้อยแต่มาก บำรุงเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็พอค่ะ
-
ใช้สกินแคร์ปริมาณที่เหมาะสม
เนื้อสกินแคร์มีความแตกต่างกัน ทำให้ปริมาณในการใช้งานไม่เท่ากันค่ะ อย่างง่ายที่สุดคือใช้สกินแคร์ตามคำแนะนำข้างขวดไว้ก่อนจะดีที่สุด เพื่อลดการอุดตันในภายหลัง
-
พยายามไม่สัมผัสหน้าตัวเอง
คนเรามักจะเผลอจับ แงะ แกะ เกา หน้าตัวเองบ่อย ๆ การกระทำนี้จะทำให้ผิวได้สัมผัสสิ่งสกปรกจากมือเรา ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาแบบไม่รู้ตัวได้ (โดยเฉพาะคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย)
จริงค่ะ – สกินแคร์ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเสมอไป เพียงแต่เราต้องรู้จักการดูส่วนผสมที่เหมาะกับผิวเราให้ดีและก่อนจะนำมาใช้ก็ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนค่ะ หลายคนมองข้ามขั้นตอนนี้ไปเพราะอยากรีบ ๆ ใช้ให้เห็นผล กลายเป็นแพ้แล้วโทษว่าของถูกมันไม่ดี หรือบางคนลองใช้แค่ไม่กี่วันก็บอกว่าไม่เห็นผล คุณภาพต่ำ สกินแคร์คือสิ่งที่ต้องใช้เวลาในเผยผลลัพธ์ค่ะ อย่างน้อยก็ 1-2 เดือนขึ้นไป เพราะฉะนั้น อดทนเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนค่ะ
จะรู้ได้ยังไงว่าเราควรใช้สกินแคร์ตัวไหน?
การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับเรานั้น ขึ้นอยู่กับการรู้จักสภาพผิวของตัวเราเองค่ะ อย่างที่เรารู้กันดีว่าผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ปัญหาผิวที่ไม่เหมือนกัน และสกินแคร์คือผลิตภัณฑ์ที่คุณสมบัติต่างกันด้วย เราจึงต้องทำความรู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อน แล้วค่อยเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับเราค่ะ
สกินแคร์ส่วนใหญ่มักจะบอกไว้อยู่แล้วว่าตัวเองเหมาะกับผิวแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ควรจะทำความเข้าใจส่วนผสมและคุณสมบัติของมันให้ดีด้วย เพื่อที่จะได้เลือกสกินแคร์ดีที่สุดสำหรับตัวเราค่ะ หากหนุ่ม ๆ สาว ๆ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านวิธีเลือกสกินแคร์รูทีนของแต่ละปัญหาผิวได้ที่ Skincare Routine ตามสภาพผิว
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
การเลือกสกินแคร์ดีที่สุด คือสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวของเราค่ะ เพราะสกินแคร์คือผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกันหลายอย่าง เราจึงต้องเลือกสกินแคร์ขั้นพื้นฐานอย่างรอบคอบ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและแข็งแรง ลดการเกิดปัญหาผิวไปในตัวด้วยนะคะ