วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง เป็นขั้นตอนสำคัญที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้ามมันไป เพราะรู้สึกว่าเป็นการทำความสะอาดใบหน้าเพียงเท่านั้น แต่รู้หรือเปล่าคะว่าวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องนั้นสามารถทำให้ผิวเราดีขึ้นได้จริง! วันนี้ หมอตวง Amara Skin Center จึงจะพาทุกคนมาดูวิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง พร้อมการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตัวเองกันค่ะ!
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง 5 ขั้นตอนแบบ Step by Step
การมีวิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง จะช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างละเอียด ลดการอุดตัน ลดการเกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ได้เยอะมากค่ะ แล้ววิธีล้างหน้าที่ถูกต้องจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง? มาดูกันเลย
-
ถ้าแต่งหน้า ต้องลบเครื่องสำอางให้หมด
อย่างที่เราทราบกันค่ะว่า การแต่งหน้าสามารถทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้หากเราทำความสะอาดไม่มากพอ ซึ่งการอุดตันเหล่านี้ก็จะเป็นต้นตอของปัญหาผิวหลากหลายแบบ ทั้งนี้ เครื่องสำอางเองก็ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยคลีนเซอร์ (Cleanser) ธรรมดา เพราะมันมีไว้แค่ล้างทำความสะอาดหน้าเท่านั้น
หากสาว ๆ ชอบแต่งหน้าอยู่แล้ว ขั้นตอนแรกของวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องจึงเป็นการล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดค่ะ โดยเจ้าผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางนี้เรียกว่า คลีนซิ่ง (Cleansing) หรือเมคอัพ รีมูฟเวอร์ (Makeup Remover) มีทั้งแบบน้ำ น้ำมัน เนื้อบาล์ม เจล หรือเนื้อน้ำนมเลยค่ะ
-
ชโลมผิวหน้าด้วยน้ำอุ่น
สาว ๆ อาจจะชอบล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หรือบางคนอาจจะล้างหน้าด้วยน้ำที่ค่อนข้างร้อน หมออยากจะบอกว่าผิดถนัด! เพราะน้ำร้อนจะทำให้หน้าแห้งเพราะไปดึงน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวออกมากไป ในขณะที่น้ำเย็นจะทำให้รูขุมขนหดตัวลง จนไม่สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกได้ดีเท่าที่ควร
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องจะต้องล้างด้วย ‘น้ำอุ่น’ เท่านั้น เพราะมันจะช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้ผิวเปียกน้ำอย่างอ่อนโยน ไม่แห้งตึงหรือหนืดเกินไป ทำให้สามารถดึงสิ่งสกปรกที่เกาะหรืออุดตันอยู่ออกมาได้ง่าย
-
เทคลีนเซอร์ลงบนมือ ไม่ใช่บนหน้า
อีกความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการล้างหน้า นั่นก็คือการเทคลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าลงบนผิวโดยตรงและขยี้ให้เกิดฟองบนผิว การล้างหน้าแบบนี้อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองเพราะมันรุนแรงมากเกินไปค่ะ ซึ่งกรณีนี้ก็รวมถึงการใช้เครื่องขัดผิวหน้าหรืออุปกรณ์ล้างหน้าอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผิวเสียดสีมากไปด้วย
การเทคลีนเซอร์ลงบนฝ่ามือแล้วถูให้เกิดฟองก่อนนำไปล้างบนผิวหน้า จึงเป็นวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องและอ่อนโยนที่สุดแล้วค่ะ และทำความสะอาดแค่ 10-20 วินาทีก็เพียงพอ อย่าถูหรือขยี้แรงเกินไป หลีกเลี่ยงผิวรอบดวงตาที่บอบบาง แค่นี้ก็สะอาดแล้ว!
-
ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและซับให้แห้ง
หลังถูทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนแล้ว ให้ล้างคลีนเซอร์เหล่านั้นออกด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเล็กน้อยก็ได้ แต่เมื่อถึงเวลาต้องเช็ดผิวให้แห้ง อย่าพยายามเช็ดเร็วหรือแรงเกินไปเพื่อให้มันแห้งไว ๆ เพราะมันอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องควรมาคู่กับการเช็ดหน้าที่เหมาะสมนะคะ เราจะต้องเลือกผ้าเช็ดหน้าที่อ่อนนุ่มไม่อับชื้นมาซับน้ำออกเบา ๆ (หรือใช้ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าก็ได้) แทนการเช็ดถูอย่างรุนแรง และจำไว้ว่าต้องเลือกผ้าที่สะอาดเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรียจนเป็นสิวอักเสบด้วย
-
เช็ดผิวด้วยโทนเนอร์เตรียมผิว
สำหรับขั้นตอนวิธีการล้างหน้าที่ถูกต้อง ‘โทนเนอร์ (Toner)’ อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยสำคัญ นั่นก็เป็นความจริงค่ะ แต่เฉพาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวเท่านั้น หากเรายังมีปัญหาผิวเยอะก็ยังควรเพิ่มโทนเนอร์เข้ามาในสกินแคร์รูทีนอยู่
โทนเนอร์มีหลายแบบและหลากจุดประสงค์ มีทั้งโดดเด่นในการช่วยลดรอยแดงรอยดำ ลดจุดด่างดำต่าง ๆ ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง หรือปรับสมดุลให้ผิว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีจุดประสงค์ร่วมกันคือทำให้ผิวพร้อมที่จะได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ดังนั้น ก่อนที่จะลงสกินแคร์บำรุง เราจึงควรใช้โทนเนอร์ก่อนจะเป็นผลดีค่ะ
เคล็ดไม่ลับ! ทริคล้างหน้าให้มีประสิทธิภาพ
✅ หลังล้างหน้า ต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เสมอ
✅ วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องควรทำวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น)
✅ ผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละครั้ง ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
✅ ทากันแดดทุกวัน ทั้งตอนออกแดดหรืออยู่ในที่ร่ม
ผิวคนละแบบ มีวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องต่างกันไหม?
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องสำหรับปัญหาผิวแต่ละแบบนั้นไม่ต่างกันค่ะ แม้ว่าปัญหาผิวบางอย่างจะเหมือนกัน เช่น เป็นฝ้า กระ เป็นสิว มีรอยแผลเป็น ฯลฯ แต่พื้นฐานของผิวเราไม่เหมือนกันอยู่แล้ว บางคนหน้ามันมาก หน้ามันเฉพาะช่วง T-Zone หรือบางคนหน้าแห้งมาก ๆ
ความแตกต่างเกี่ยวกับโครงสร้างผิวหนังของแต่ละคนนี้ จึงทำให้เราต้องโฟกัสไปที่การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าค่ะ จากที่หมอได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องไปแล้ว จะมีผลิตภัณฑ์หลักคือ คลีนซิ่ง คลีนเซอร์ และโทนเนอร์
คลีนซิ่ง (Cleansing) จะเน้นทำความสะอาดผิวโดยไม่ต้องใช้น้ำ สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ไปจนถึงเครื่องสำอางได้ดี แต่คลีนเซอร์ (Cleanser) คือตัวทำความสะอาดผิวร่วมกับน้ำ จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกไปให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันโทนเนอร์ (Toner) จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกอีกครั้ง และช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงต่อไป
อย่างที่ทราบกันดีว่าแต่ละตัวนั้นมีหลากหลายยี่ห้อ คุณสมบัติย่อมต่างกัน และเหมาะกับผิวคนละแบบ ถ้าเป็นคนหน้ามันก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อไม่ให้หน้ามันเพิ่ม คนที่ผิวแห้งก็ต้องเลือกตัวที่เพิ่มความชุ่มชื้นไว้ก่อน แต่หลัก ๆ คือต้องล้างหน้าให้ถูก เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ไม่แพ้ และไม่อุดตันผิวค่ะ
ปัญหาผิวหนักมาก วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องก็ไม่ช่วย ทำยังไงดี?
หากสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวรุนแรงมาก เช่น ปัญหาสิวอย่างสิวเรื้อรัง สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง หรือปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำเยอะมาก ๆ จนไม่สามารถอดทนใช้วิธีล้างหน้าอย่างถูกต้องร่วมกับการจัดสกินแคร์รูทีนสำหรับปัญหาของตัวเองได้ หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางจะดีที่สุดค่ะ หรือสามารถเลือกทำหัตถการเพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุดก็ได้เช่นกัน
ปัญหาผิวเยอะมาก! คลีนซิ่งกี่ขวดก็เอาไม่อยู่
มาที่ Amara Skin Center มีอะไรให้ทำบ้าง?
Lumecca ลดความหมองคล้ำ เผยผิวกระจ่างใส
- ลดปัญหาฝ้า กระ รอยดำรอยแดง รอยสิว
- ปรับผิวขาวกระจ่างใส เนียนเป็นธรรมชาติ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเด้ง
- ลดการอักเสบของสิว กระชับรูขุมขน
Pico Plus laser มาแรงสุด หยุดทุกปัญหาผิว
- ลบรอยสัก เม็ดสีผิวไม่ปกติ กระ ฝ้า ปาน ขี้แมลงวัน
- ลดการอักเสบของผิว ผื่นแพ้ ผิวไหม้แดดหรือผิวลอก
- ฟื้นหลุมสิวให้ผิวกลับมาเรียบเนียนตั้งแต่ครั้งแรก
- ลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน ปัญหาเส้นเลือดฝอย
Meso White ฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายในสู่ภายนอก
- เสริมสร้างคอลลาเจน ผิวแข็งแรง อ่อนเยาว์
- แก้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เร่งผลัดเซลล์ผิว
- ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ และริ้วรอย
- กระชับรูขุมขน ผิวคงความชุ่มชื้น กระจ่างใส
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
หากสาว ๆ หนุ่ม ๆ ต้องการลดการอุดตันของผิว ไม่ว่าจะใช้อะไรก็ต้องใส่ใจกับการทำความสะอาดผิวนะคะ วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องบวกกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเรานั้นมีส่วนช่วยให้ขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งตกค้างได้มาก เราจึงไม่ควรมองข้ามวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องไป เพื่อให้ผิวสะอาดและพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่